10 สุนัขสายพันธ์ญี่ปุ่น ที่นิยมทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ

10 สุนัขสายพันธ์ญี่ปุ่นที่นิยม ทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงในเรื่องความเคารพต่อสัตว์และสุนัขก็ไม่มีข้อยกเว้น เรื่องราวความจงรักภักดีและความกล้าหาญที่ยอดเยี่ยมของหลายสายพันธุ์พื้นเมืองในประเทศญี่ปุ่น ได้รับการกำหนดให้เป็นสมบัติประจำชาติและ สุนัขสายพันธ์ญี่ปุ่น ที่นิยมไปแล้ว

สุนัขพันธุ์ญี่ปุ่นบางชนิดเช่น Akita และ Shiba Inu ได้เติบโตขึ้นทั่วโลกและสามารถพบเห็นได้ง่ายผ่านพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ในประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างไรก็ตามส่วนใหญ่หาได้ยากและพบเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น

การส่งออกเป็นไปได้ แต่มีราคาแพงและยาก หนึ่งสายพันธุ์ Sakhalin Husky สุนัขเลื่อนขนาดใหญ่ที่เรียกว่า Karafuto Ken เกือบจะสูญพันธุ์ไปแล้ว เรื่องจริงของสุนัขสองสายพันธ์ ได้แก่ Karafutos Taro และ Jiro ที่รอดชีวิตมาได้เพียงลำพังในแอนตาร์กติกเป็นเวลาหนึ่งปีเป็นภาพยนต์ดิสนีย์เรื่อง “Eight Below” ในปี 2006

เพื่อให้คุณเห็นคร่าวๆของสายพันธุ์ญี่ปุ่นที่มีความนิยมกัน

1.Akita

สุนัขสายพันธ์ญี่ปุ่นที่นิยม - Akita Inu

หนึ่งใน สุนัขสายพันธ์ญี่ปุ่น และเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดคือ Akita นับถือจากความจงรักภักดีของมัน Akitas เป็นสายพันธ์ที่มาจากทางภาคเหนือของประเทศถือเป็นสมบัติแห่งชาติของญี่ปุ่นเลยทีเดียว

Akita ตัวแรกที่ได้มีการมอบให้กับชาวต่างชาติ (สหรัฐอเมริกา) คือสุนัขชื่อ Kamikaze-go มอบให้กับเฮเลน เคลเลอร์ (Helen Keller) นักเขียนและนักมนุษยธรรมชาวอเมริกันเป็นของขวัญหลังจากที่เธอมาญี่ปุ่นในปี 1937

สายพันธุ์นี้น่ารักไม่แพ้กับเจ้าหมาชิบะเลย มีความคล้ายคลึงกันแต่ต่างกันครับ เอกลักษณ์ของพันธุ์นี้คือมีสีขาวและน้ำตาลอ่อน นิสัยมีความซื่อสัตย์และจงรักภักดีต่อเจ้าของเป็นอย่างมาก จะเห็นได้ว่ามีอนุศรรูปปั้นของสุนัขพันธุ์นี้อยู่ เจ้าสุนัขที่ดังไปทั่วโลกอย่าง “ฮาจิโกะ” ที่มีรูปปั้นตั้งอยู่ที่ชิบูย่านั่นเอง

เที่ยวญี่ปุ่นแบบส่วนตัว

2.Shiba Inu

สุนัขสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยม - Shiba Inu

Shiba Inus เป็นสายพันธุ์ขนาดเล็กที่มีลักษณะคล้ายกับ Akitas ถือว่าเป็นหนึ่งใน สุนัขสายพันธ์ญี่ปุ่น และเป็นสายพันธุ์สุนัขที่เก่าแก่ที่สุดในโลก แต่เดิมถูกเลี้ยงขึ้นเพื่อล่าสัตว์ สุนัขเหล่านี้เป็นสุนัขที่อยู่อย่างอิสระและเข้มแข็งและต้องการการฝึกอบรมที่ดี เสียงกรีดร้องเหมือนปกติที่สุนัขชิบะทำจนเป็นเอกลักษณ์ของสายพันธ์ จนถูกเรียกว่า “Shiba scream”

ถามว่าเสียง “Shiba scream” แบบไหนต้องลองเลี้ยงถึงจะรู้และได้สัมผัสของจริงแบบเต็มๆ

3.Shikoku Inu

สุนัขสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยม - Shikoku Inu

ชื่อที่ตั้งตามสถานที่ที่มาจากสุนัขเหล่านี้ มาจากพื้นที่ที่เป็นภูเขาของเกาะชิโกะกุ อีกสายพันธ์ที่นิยม Shikoku Inu เป็นสุนัขขนาดกลางที่มีหูที่เต็มไปด้วยหนามและหางโค้ง Shikokus มีความชาญฉลาดและเป็นอิสระอย่างไม่น่าเชื่อ นี่ทำให้มันยากที่จะฝึกอบรม สุนัขพันธ์นี้หายากมาก แม้แต่ในประเทศญี่ปุ่น

รถนำเที่ยวญี่ปุ่น

4.Kai Ken

สุนัขสายพันธ์ญี่ปุ่นที่นิยม - Kai Ken

Kai Ken เดิมเป็นสุนัขป่าจากจังหวัด Kai บนเกาะ Honshu สายพันธุ์นี้ไม่ได้ถูกนำมาใช้ในสหรัฐอเมริกาจนถึงปี 1990 น้อยกว่าพันธุ์อื่นๆในญี่ปุ่นที่เป็นอันตราย

Kai เป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ Kai Ken มีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป ลักษณะของสุนัขคาอิเคนจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ลักษณะคือ ชิกะงาตะ ที่ขาทั้ง 4 ข้างเรียวยาว กับ อิโนชิชิงาตะ ที่ขาจะดูป้อมๆ ซึ่งคาอิเคน ส่วนใหญ่ในปัจจุบันแทบจะเป็นแบบชิกะงาตะเกือบทั้งหมด และสุนัขพันธุ์นี้ยังมีชื่อเล่นว่า สุนัขลายเสือเนื่องจากเป็นพันธุ์ที่มีขนลายเสือขึ้นจนเห็นเด่นชัด

นอกจากนี้ มีความดุดัน ปราดเปรียว ว่องไวตามลักษณะของสายเลือดนักล่า และค่อนข้างดุกับคนแปลกหน้า

5.Japanese Terrier

สุนัขสายพันธ์ญี่ปุ่นที่นิยม - Japanese Terrier

เป็นพันธุ์ที่หายากเป็นเทอร์เรียชาวญี่ปุ่น เป็นลูกหลานของสุนัขจิ้งจอกที่มีขนยาว ซึ่งถูกนำตัวมายังจากประเทศเนเธอร์แลนด์ในศตวรรษที่ 17 สุนัขพันธ์นี้ได้รับการผสมพันธ์กับสุนัขญี่ปุ่นพื้นเมืองส่งผลให้มี lapdog ขนาดเล็กที่มีขนสั้นเรียกว่าเทอร์เรียญี่ปุ่น และลักษณะประจำสายพันธ์เทอร์เรีย ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบมากที่สุดเพราะมันสนุกสนานและมีพลัง ร่าเริงตลอดเวลา

6.Tosa Inu

สุนัขสายพันธ์ญี่ปุ่นที่นิยม - Tosa Inu

Tosa มีชื่อเล่นว่า mastiff ญี่ปุ่นซึ่งเป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ที่มาจากอ่าว Tosa บนเกาะชิโกกุ สุนัขทำงานนี้เป็นที่รู้จักเนื่องจากมีความสามารถทางกีฬา ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเหล่านักรบขนาดใหญ่เกือบจะสูญพันธุ์ เดิมเป็นพันธุ์ที่ต่อสู้ ปัจจุบัน Tosa นิยมนำมาเฝ้าบ้านและสุนัขยามที่ดีนั่นเอง

7.Japanese Spitz

สุนัขสายพันธ์ญี่ปุ่นที่นิยม - Japanese Spitz

ประเภทสุนัขขนาดเล็กนี้ คือ สุนัขสายพันธ์ญี่ปุ่น เลี้ยงไว้เป็นเพื่อนและสัตว์เลี้ยง มีหน้าอกลึกและขนหนาสองชั้นสีขาวบริสุทธิ์ หางยาวปกคลุมไปด้วยเส้นขนยาวและยังมีรอยย่น มีรายงานการเกิดใหม่ของสายพันธ์ในประเทศญี่ปุ่นในช่วงทศวรรษที่ 1920-1930 เพื่อให้เกิดความสวยงามและลดบริเวณรอยย่นที่เป็นข้อด้อย จึงมีการผสมข้ามพันธุ์กับ Spitz ชนิดอื่น ๆ อายุขัยเฉลี่ย 12-16 ปี

สปิทซ์มีความกระตือรือร้น จงรักภักดีและเป็นสัตว์เลี้ยงที่ยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับความกล้าหาญความรักและความมุ่งมั่น พวกมันเป็นสุนัขเฝ้ายามที่ยอดเยี่ยมรวมทั้งเพื่อนที่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุและเด็กเล็กอีกด้วย

พ้นธ์นี้แอดมินก็เลี้ยงครับ น่ารักและหยิ่งปุดๆเลยหล่ะ ^^

8.Hokkaido Ken Dog

สุนัขสายพันธ์ญี่ปุ่นที่นิยม - Hokkaido Ken Dog

ฮอกไกโดเป็นสุนัขสายพันธุ์ญี่ปุ่นที่หาได้ยาก และเป็น สุนัขสายพันธ์ญี่ปุ่น มันไม่ได้เป็นที่รู้จักโดยสมาคมสุนัขอเมริกันและแทบจะไม่เคยเห็นนอกประเทศญี่ปุ่น สุนัขเหล่านี้ได้รับการยกย่องให้เป็นชื่อของชนเผ่าโบราณที่นำบรรพบุรุษของสายพันธุ์มีมาในญี่ปุ่น ฮอกไกโดเป็นสุนัขขนาดกลางที่รู้จักกันดีในด้านร่างกายแข็งแรงและชาญฉลาด

9.Kishu Ken

สุนัขสายพันธ์ญี่ปุ่นที่นิยม - Kishu Ken

ชื่อที่ตั้งตามภูมิภาคที่เป็นแหล่งกำเนิดของสายพันธ์ (Kishu) ซึ่งเป็นพันธุ์แรกของญี่ปุ่น Kishu มีขนาดกลางและเป็นสุนัขที่เงียบสงบ Kishus ได้มีในญี่ปุ่นนับพัน ๆ ปีแล้วและถูกนำมาใช้สำหรับการล่าสัตว์ แม้ว่าหัวรุนแรงไปนิด แต่ความจงรักภักดีไม่เป็นสองรองจากพันธ์ไหนๆในญี่ปุ่น

Kishus ต้องการการฝึกอบรมที่ดี จึงจะสามารถทำตามคำสั่งอย่างรู้ภาษา หรือที่เราเรียกว่า “แสนรู้” Kishuยังมีนิสัยขี้อาย ชอบซ่อนตัวและมีความสันโดด ในปี 1934 ได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นสัตว์สงวน และกำหนดให้เป็นสัญลักษณ์ของความทรงจำของธรรมชาติของญี่ปุ่น” 

สุนัขพันธุ์คิชูอินุ เป็นพันธุ์สุนัขดั้งเดิมของ 3 จังหวัดบนคาบสมุทรคิอิ ได้แก่ จังหวัดวาคายามะ มิเอะ และนาระ ว่ากันว่าเกิดมาจากสุนัขดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ในแถบคาบสมุทรคิอิกับหมาป่า โดยมีตำนานเล่าว่า มีหมาป่าบาดเจ็บตัวหนึ่งได้รับการรักษาจากนายพราน หมาป่าจึงทดแทนบุญคุณด้วยการมอบลูกให้ ซึ่งลูกหมาป่าตัวนั้นก็ผสมข้ามสายพันธุ์กับสุนัขอื่นจนเป็นของคิชูอินุในเวลาต่อมา 

10.Sakhalin Husky

สุนัขสายพันธ์ญี่ปุ่นที่นิยม - Sakhalin Husky

อาจเรียกว่า Karafuto-Ken ซึ่งเป็นสุนัขประเภทนี้ใช้เป็นสุนัขลากเลื่อน เป็นแบบ spitz ผสมกับหมาญี่ปุ่นตัวอื่น ๆ เช่น Akita Inu หูมีขนาดเล็กแหลม มันสามารถพบได้หลายสี และขนหนามาก ส่วนขนชั้นในหนามากและละเอียดนุ่นมากเช่นเดียวกับสุนัขที่กรีนแลนด์ขั้วโลกเหนือ

สุนัขสายพันธ์ญี่ปุ่น ประเภทนี้ได้รับความนิยมด้วยการเปิดตัวภาพยนตร์ 1983 Nankyoky Monogatari เกี่ยวกับ Taro และยัง Jiro, 2 Sakhalin Huskies ที่กลายเป็นวีรบุรุษหลังจากที่ทนอยู่ในแอนตาร์กติกาเป็นเวลาหนึ่งปีกับอาหารที่หายากและขาดแคลน หลังจากเสียชีวิตซากของมันได้ถูกเก็บไว้อย่างดีเพื่อเป็นตัวอย่าง ตั้งอยู่ในหอทดลองทางวิทยาศาสตร์แห่งชาติที่อุเอะโนะโตเกียว นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นในเมืองนาโกย่าอีกด้วย

7 เรื่องต้องรู้เกี่ยวกับญี่ปุ่น ก่อน Let’s Go to Japan

เรื่องต้องรู้ก่อนไปญี่ปุ่น

“ญี่ปุ่น” ดินแดนอาทิตย์อุทัย ประเทศที่ขึ้นชื่อว่าผู้คนมีระเบียบวินัย อาหารทะเลที่อุดมสมบูรณ์ และผลไม้สดหวานฉ่ำ ทำให้ใครต่อใครอยากที่จะไปสัมผัส อ๊ะๆ แต่ก่อนจะเดินทางไปต่างแดนอย่าง ญี่ปุ่น ทั้งที ในฐานะนักท่องเที่ยวก็ควรที่จะรู้ และทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อปฏิบัติที่คนญี่ปุ่นเขาทำกันด้วยนะ จะได้ไม่หน้าแตกหรือสร้างความอับอายให้ตนเอง ว่าแต่งานนี้ข้อปฏิบัติที่ว่าจะมีอะไรบ้าง ใครไม่อยากพลาด เลื่อนลงไปอ่านได้ที่ข้างล่างนี้เลยค่ะ!

 

7 เรื่องต้องรู้ก่อนไปญี่ปุ่น

7 เรื่องต้องรู้ก่อนเดินทางไป ญี่ปุ่น ป้องกันหน้าร้าวไม่รู้ตัว

1. ของหายแต่ได้คืน เป็นเรื่องปกติ

สำหรับเรื่องความซื่อสัตย์ของคนญี่ปุ่น rabbit finance ขอบอกเลยค่ะว่า แน่นอนจริงๆ เพราะต่อให้คุณลืมของอะไรเอาไว้ หรือทำสิ่งของสำคัญตกพื้นไป เชื่อหรือไม่คะว่า เดินกลับมาอีกครั้งของเหล่านั้นก็ยังอยู่ แต่ถ้าเดินกลับไปแล้วไม่พบสิ่งของของคุณ เราขอบอกเลยค่ะว่าอย่าเพิ่งตกอกตกใจกันไป เพราะตามสนามบิน หรือสถานีรถไฟที่ญี่ปุ่นเขามีแผนก Lost and Found อยู่ ใครของหายก็ไปตามได้ที่นั่นเลย

2. ทิปอะไรไม่ต้องให้ บริการด้วยใจล้วนๆ

เมื่อคุณไปถึงญี่ปุ่นบอกเลยค่ะว่าสิ่งแรกที่คุณจะได้รับจากคนในประเทศนั้นเลยก็คือ Service Mind เจอแบบนี้ไปเป็นใครก็ประทับใจ มือไม้อ่อนอยากให้ทิปกันใช่ไหมละคะ แต่… เดี๋ยวก่อนค่ะ อย่าเพิ่งไปเผลอให้ทิปกับพนักงานเหล่านั้นเชียวนะคะ เพราะที่ญี่ปุ่นเขาไม่มีธรรมเนียมการให้ทิปกันค่ะ เนื่องจากพนักงานให้บริการในประเทศญี่ปุ่นทุกคนเขาได้รับการอบรมให้บริการผู้ที่ใช้บริการด้วยความเต็มใจ ไม่หวังเงินรางวัลใดนั่นเอง

3. ญี่ปุ่นไม่มีธรรมเนียมลุกให้นั่ง

การที่ประเทศญี่ปุ่นไม่มีธรรมเนียมลุกให้นั่งนั้นไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไรเลยค่ะ เนื่องจากคนญี่ปุ่นเขาถูกสอนมาให้หลีกเลี่ยงการรบกวนผู้อื่นถ้าไม่จำเป็น ดังนั้นการไม่สละที่นั่งจึงไม่ถือเป็นเรื่องแล้งน้ำใจหรือไร้มารยาท อีกทั้งในรถไฟของญี่ปุ่นเองก็มีการจัดที่นั่งพิเศษสำหรับผู้สูงอายุ, หญิงตั้งครรภ์ และผู้ป่วยอยู่แล้ว ซึ่งผู้โดยสารทั่วไปมักจะไม่เลือกนั่งที่นั่งนี้ สำหรับในกรณีของเด็กนั้นยิ่งไม่จำเป็นต้องสละที่นั่งเลยค่ะ เพราะว่าชาวญี่ปุ่นเขาถือว่าการทำแบบนี้ช่วยให้เด็กๆ ได้ฝึกฝนการช่วยเหลือตนเอง

4. ประตูรถแท็กซี่เปิด-ปิดอัตโนมัติ

นอกจากประเทศญี่ปุ่นจะขึ้นเชื่อเรื่องผู้คนมีระเบียบวินัย อาหารทะเลที่อุดมสมบูรณ์ และผลไม้สดหวานฉ่ำแล้ว ก็มีอยู่อีกอย่างหนึ่งนะที่ rabbit finance ไม่ได้พูดถึง นั่นก็คือเรื่องเทคโนโลยีของประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง มาถึงดินแดนเทคโนโลยีสุดล้ำแล้วทั้งที จะมีเหรอรถแท็กซี่ธรรมดา เพราะประตูรถแท็กซี่ในประเทศญี่ปุ่นเขาสามารถเปิดปิดได้อัตโนมัติค่ะ ดังนั้นใครที่จะมาญี่ปุ่นแล้วลองใช้บริการรถแท็กซี่ของที่นี่เราขอบอกให้คุณยืนห่างจากแท็กซี่หน่อย จะได้ไม่โดนประตูรถกระแทกตอนเปิดออก

ญี่ปุ่น

5. ต่อแถวให้เป็น ไปที่ไหนต้องทำได้

เมื่อคุณมาถึงญี่ปุ่นสิ่งแรกที่ต้องฝึกไว้ให้ชินเลยก็คือ การเข้าแถว ไม่ว่าคุณจะไปขึ้นลงรถไฟ ขึ้นลงรถประจำทาง ซื้อของ เข้าห้องน้ำ หรือรับประทานอาหารก็ตามแต่ ทุกสถานการณ์จะต้องมีการเข้าแถวมาเกี่ยวข้องอยู่เสมอ ดังนั้นเมื่อคุณเดินทางไปถึงประเทศญี่ปุ่นแล้วก็อย่าลืมเข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตามด้วยการเข้าแถวกันด้วยละ จะได้ไม่ต้องหน้าแตกที่ญี่ปุ่นกัน

6. งดใช้เสียงระหว่างใช้บริการขนส่งสาธารณะ

สำหรับข้อนี้ ถือได้ว่าเป็นกฎกติกาทางสังคมของคนญี่ปุ่นอันดับต้นๆ รองจากการเข้าแถวเลยก็ว่าได้ เนื่องจากบางคนเมื่อใช้บริการด้วยยานพาหนะสาธารณะอย่างรถไฟ รถเมล์แล้ว พวกเขาอาจจะต้องการพักผ่อนเงียบๆ หรือใช้สมาธิเพื่อตริตรองเรื่องราวต่างๆ

นอกจากการงดใช้เสียงบนยานพาหนะสาธารณะแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรทำบนนั้นเลยก็คือการแต่งหน้าค่ะ เพราะคนญี่ปุ่นเขาถือว่ารถไฟไม่ใช่บ้าน หรือห้องน้ำที่จะแต่งหน้าทาปากโดยไม่สนใจใครได้ รู้แบบนี้แล้วก็อย่าไปเผลอทำอะไรไม่ถูก ไม่ควรบนยานพาหนะสาธารณะกันละ

เที่ยวญี่ปุ่นแบบส่วนตัว

7. คันโตเดินชิดซ้าย คันไซเดินชิดขวา

เนื่องจากคนญี่ปุ่นนั้นมีชีวิตประจำวันที่เร่งรีบอยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดวัฒนธรรมการยืนชิดฝั่งใดฝั่งหนึ่งเพื่อหลีกทางให้กับผู้ที่มีธุระด่วน ซึ่งข้อปฎิบัติการใช้บันไดและบันไดเลื่อนนั้นสามารถแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาคของประเทศญี่ปุ่น ดังนี้

  • แถบภูมิภาคคันโต

โดยแถบภูมิภาคคันโต อาทิ โตเกียว กุนมะ อิบาระกิ ไซตามะ คานากาวะนั้น ระหว่างขึ้นลงบันไดหรือบันไดเลื่อน เพื่อนๆ ควรยืนชิดซ้าย แต่หากรีบก็ให้เดินขึ้นลงทางขวามือ

  • แถบภูมิภาคคันไซ

โดยแถบภูมิภาคคันไซ อาทิ โอซาก้า เกียวโต นาระ จะต้องเปลี่บนมายืนชิดขวา และเดินขึ้นลงในช่องซ้ายมือกรณีรีบด่วน

และนี่ก็คือ 7 เรื่องต้องรู้ที่ rabbit finance คัดมาแล้วว่าเพื่อนๆ ต้องทราบก่อนเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นค่ะ ไม่ใช่แค่เฉพาะประเทศญี่ปุ่นอย่างเดียวนะที่เราต้องศึกษากฎระเบียบของบ้านเขา เมื่อเราดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศอื่นๆ เราก็ควรที่จะศึกษากฎระเบียบบ้านเขาด้วย ท่องเอาไว้ค่ะว่า “เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม”

ตำนานรอยสักญี่ปุ่น พร้อมความหมายของรอยสักต่างๆสไตร์ญี่ปุ่น

ตำนานรอยสักญี่ปุ่น

1.ตำนานรอยสักญี่ปุ่น

รอยสักจริงๆ มีมาบนโลกมนุษย์กว่า 4,000 ปี ตั้งแต่ยุคสมัยอียิปโบราณ มีหลักฐานการพบเจอใน มัมมี่ที่ถูกค้นพบ แต่ในญี่ปุ่นรอยสักมีประวัติที่น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยรอยสักของญี่ปุ่นนั้นมีความสวยงามอย่างยิ่งจัดว่าเป็นเบอร์ต้นๆของโลกเลยทีเดียว เราจึงขอนำเสนอเรื่องราวของ ตำนานรอยสักญี่ปุ่น ที่มีอายุยาวนานกว่า 3,000 ปี

ตำนานรอยสักญี่ปุ่น ถูกค้นพบครั้งแรกที่ตุ๊กตาฮานิวะที่ถูกขุดพบพร้อมกับหลุมศพของโชกุน หรือเจ้านายในยุคนั้น นักวิทยาศาสตร์ตรวจสอบอายุแล้วพบว่ามีอายุเก่าแก่ประมาณ 2,300 ปีเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามนักโบราณคดีและประวัติศาสตร์ก็สันนิษฐานว่าผู้ที่มีรอยสักก็ต้องเป็นเครื่องหมายแสดงความเป็นผู้กล้าของทหารในสมัยนั้น บางกลุ่มเชื่อว่าต้องเป็นการแสดงยศตำแหน่งของคนที่มีรอยสักนั้น

ฮานิวะตุ๊กตารอยสักญี่ปุ่นโบราณ

แม้จะมีหลักฐานจากรอยสักบนฮานิวะที่อยู่ในหลุมศพก็ตามแต่ก็ยังมีคนบางกลุ่มที่เชื่อว่ารอยสักเป็นการทำเครื่องหมายของนักโทษเพื่อเป็นการประจานและเพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมตัวและระบุถิ่นที่อยู่

เบื้องต้นรอยสักถูกนำมาใช้ในสังคมญี่ปุ่นเพื่อวัตถุประสงค์ทางจิตวิญญาณหรือถ่ายทอดสถานะทางสังคม เนื่องจากความเชื่อโชคลางว่ารอยสักจึงมีแนวโน้มที่จะเชื่อมโยงสิ่งมีชีวิตบางอย่างกับความเชื่อ

ในเวลาเดียวกันรอยสักก็จะถูกนำมาใช้เพื่อระบุชนชั้นที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น การแยกทาสออกจากเจ้าของการระบุตัวตนนี้เป็นสิ่งที่ผลักดันการยอมรับรอยสักอย่างกว้างขวางโดยมีผู้คนจำนวนมากขึ้นนำเสนอตัวตนของตนเอง

ตำนานรอยสักญี่ปุ่น

อาชญากรคนหนึ่งต้องปรับเปลี่ยนการออกแบบที่แตกต่างกันเพื่อแยกความแตกต่างระหว่างแก๊งของพวกเขา ตัวอย่างเช่น ยากูซ่าและมาเฟียญี่ปุ่น

ที่นำเอารอยสักมาใช้ในการแสดงว่าได้ทำความดีความชอบให้แก๊งไปมากเท่าไรแล้วยิ่งมีรอยสักมากก็แสดงว่ามีความเก่งกาจสามารถมาก

แนวโน้มของการสักทั่วโลกยุคปัจจุบันเริ่มเปลี่ยนไปในทางงานศิลปะบนร่างกายมากกว่าการสักเพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่กล่าวมาแล้วการออกแบบที่สวยงามการเล่นลวดลายรวมทั้งการใช้สีสรรที่มีเอกลักษณ์ทำให้คนไม่สนใจเรื่องความหมายของแต่ละลายกันสักเท่าไหร่

วางโปรแกรมท่องเที่ยวฟรี

2. ความหมายและที่มาของการสัก

รอยสักมังกรคลุมไหล่พร้อมเกลียวคลื่นญี่ปุ่น

การได้เห็นตำนานรอยสักญี่ปุ่น เหล่านี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับวัยพวกเขาสะท้อนถึงความเชื่อความเชื่อโชคลางและสิ่งแวดล้อมของคนญี่ปุ่นแม้ว่ารอยสักจะถูกนำมาใช้เพื่อระบุตัวตนและนี่ก็ยังเป็นจุดประสงค์หลักของการมีรอยสักคุณก็ยังสามารถค้นหาความหมายของคุณเองในแต่ละรอยสักได้

สำหรับความหมายของรอยสักญี่ปุ่นนั้นมีประวัติที่ยาวนานและน่าสนใจยิ่งนัก โดยเฉพาะชนเผ่าไอนูชนเผ่าโบราณของญี่ปุ่น มีความนิยมสักในผู้หญิงเป็นหลัก ความหมายเช่น ถ้าสักที่มือจะแสดงถึงการยินยอมทำงานหนักเพื่อสามีไปจนชีวิตจะหาไม่ สักที่ริมฝีปาก หมายถึงเธอคนนั้นจะพูดเพื่อสามี พูดแต่สิ่งดีๆเพื่อครอบครัวและนับถือเทพเจ้าของพวกเธอตลอดชีวิต

อีกอย่างหนึ่งคือ ถ้าผู้หญิงชาวไอนูคนไหนสักที่ริมฝีปาก เมื่อตายไปจะต้องตกนรก พบกับความยากลำบากไม่ได้ไปสวรรค์ดั่งเช่นหญิงที่มีรอยสักคนอื่นๆ

การสักในหญิงและชายญี่ปุ่น

ต่อมาเมื่อประมาณปี พ.. 2200 มีหลักฐานว่ามีการสักคำว่าสุนัขไว้ที่หน้าผากของอาญกรเพื่อให้สาธารณชนได้รับรู้และไม่เข้าใกล้ ในกรุงโตเกียว อาชญากรจะถูกสักด้วยขีดสองขีดไว้ที่ต้นแขนขวา ส่วนในเมืองซัทสุมะ จะมีการสักเป็นรูปวงกลมเล็กๆ ไว้ที่ไหล่ซ้าย

การสักที่กล่าวมาจะทำให้ทราบว่าคนๆนั้นเป็นอาชญากรและมีพื้นเพอยู่ในเขตใดเวลาตามตัวและเห็นจะได้ทราบว่าและทำให้สถิติอาชญากรรมลดลงอย่างชาญฉลาดทีเดียว

ต่อมาในปี พ.. 2220 มีหลักฐานว่ามีการสักกันอย่างแพร่หลายในกลุ่มโสเภณี แมงดา นักเที่ยว นักพนัน และคนโฉดทั้งหลาย การสักในยุคนี้จะเป็นตัวหนังสือญี่ปุ่นหรือจีนที่มีความหมายเพียงไม่กี่คำ ยังไม่ปรากฎเห็นว่ามีการสักโดยใช้รูปและลวดลายที่สวยงามอย่างในยุคนี้

การสักในบางกลุ่มคนที่มีความแตกต่างที่ชัดเจน ทำให้เกิดการแบ่งแยกชัดเจนระหว่างชนชั้น กลุ่มคนชั้นสูงจะไม่สัก รอยสักจะปรากฎในเฉพาะพวกผู้ใช้แรงงาน พวกโสเภณี ตามที่กล่าวมา แต่เมื่อมาถึง พ.. 2293 รอยสักญี่ปุ่นก็พื้นคืนชีพ อีกครั้งมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบโชกุน สู่การปกครองแบบใหม่ ผู้ชายญี่ปุ่นนิยมการสักมากขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ แทบทุกเมืองทั่วประเทศได้มีการออกแบบลวดลายใหม่ๆ อันสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่นขึ้นมาและสืบทอด ตำนานรอยสักญี่ปุ่น มาเท่าทุกวันนี้

แต่ต่อมาได้มีการแบ่งกลุ่มกันจากรอยสัก คนที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในส่วนของการแสดงละครญี่ปุ่น (Kabuki) และในโรงพนันต่างๆ จะมีเรื่องราวทะเลาะ วิวาทกันอยู่เสมอๆ รัฐบาลจึงเข้ามาปราบปรามและสั่งปิดโรงละคร รวมทั้งออกกฎว่า ใครนิยมรอยสักจะถูกลงโทษอย่างรุนแรง

รอยสักของญี่ปุ่นจึงกลับไปสู่ยุคมืดกันอีกครั้ง และลงสื่อคนกลุ่มกรรมมาชีพ หรืออาสมัครกู้ภัยกันอีกครั้ง การสักในหมู่คนที่ทำงานเหล่านี้มีความเชื่อเรื่องว่ารอยสักจะคอยป้องกันอันตรายในขณะทำงานของพวกเหล่ากู้ภัย เมื่อกลุ่มนี้มีคนเข้ามาอยู่มาก มีผลงานมากก็กลายเป็นแก๊ง ซึ่งเป็นตำนานของยากูซ่าในเวลาต่อมานั่นเอง

โดยการสักที่บ่งบอกกลุ่มคนดังกล่าวก็ยังส่งผลให้เกิดความหวาดกลัวคนที่มีรอยสัก บ้างก็รังเกียจเดียจฉันท์จากชนชั้นสูง ถึงขนาดที่ว่าจะไม่มีใครรับคนที่มีรอยสักเข้าทำงานเลยทีเดียว จนกระทั่งปี พ..2400 รายสักก็ได้กลับมาเป็นที่ยอมรับอีกครั้งอาจมาจากคนรุ่นเก่าที่ล้มหายตายจาก แล้วคนรุ่นใหม่ได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้นความอคติดังกล่าวจึงลดลง มีหลักฐานว่าในช่วงปี พ.. 2373 – .. 2387 ซึ่งเรียกกันว่าเป็นยุคเทมโปเป็นยุครุ่งเรืองของศิลปะแขนงต่างๆรอยสักก็เป็นอีกแขนงหนึ่งที่ได้รับความนิยมกลับมาได้มีการจัดการประกวดและให้รางวัลแก่ช่างสักและรอยสักต่างๆมากมายซึ่งส่งผลให้คนนิยมสักมากขึ้น

บริการรถนำเที่ยวญี่ปุ่น

ในเวลาต่อมารอยสักญี่ปุ่นที่มีการออกแบบลวดลายที่มีเอกลักษณ์และมีการใช้สีสรรที่ได้วัฒนธรรมมาจากจีนและฝรั่งตะวันตก และได้มีการคิดค้นเข็มสักไฟฟ้าขึ้นเป็นผลสำเร็จที่โอซาก้า ในปี พ.. 2400 และกษัตริย์รัสเซียบางพระองค์ก็ทรงสเด็จมาให้ช่างสักชาวญี่ปุ่นสักเลยทีเดียว

รอยสักขุนพลคลุมไหล่

แต่ก็ยังมีการห้ามคนที่มีรอยสักลงแช่น้ำในโรงอาบน้ำสาธารณะ (ออนเซน) จนรัฐบาลญี่ปุ่นได้ออกมาขอความร่วมมือให้ผ่อนปรนกฎนี้ลง เนื่องจากต้องการดึงเอานักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาในประเมศและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ก็ได้รับความร่วมมือบ้างในบางที่เท่านั้น

3. รอยสักสไตร์ญี่ปุ่นแบบต่างๆพร้อมความหมาย

  • รอยสักมังกร (Dragon Tattoo)

รอยสักมังกรญี่ปุ่น

ตำนานรอยสักญี่ปุ่น รูปมังกรได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลกเพียงแค่ดูเกมบัลลังก์และดูรอยสักมังกรเป็นตัวแทนของอำนาจเพราะความรุนแรงและความแข็งแกร่งของมังกร ปีกของมังกรที่จะบินและความสามารถพ่นไฟได้ของมังกรอีก แม้จะมีพลังอำนาจทั้งหมดของพวกเขา แต่มังกรก็ยังถือว่าเป็นพลังแห่งความดีและเป็นผู้พิทักษ์มนุษยชาติ เนื่องจากคุณลักษณะเหล่านี้พวกเขาจึงกลายเป็นที่นิยมอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเพณีของประเทศญี่ปุ่นและนี่เป็นการจับตาดูอย่างรวดเร็วทั่วโลก

ถ้าคุณต้องการที่จะแสดงพลังและความแข็งแรงและในเวลาเดียวกันหัวใจที่ดีนี้เป็นรอยสักที่สมบูรณ์แบบสำหรับคุณ เมื่อทำถูกต้องรอยสักเหล่านี้มีความสวยงามมากและคุณสามารถเลือกได้ระหว่างสีและรูปร่างต่างๆ

  • รอยสักนกไฟ (Phoenix Tattoo)

รอยสักนกไฟญี่ปุ่น

ตำนานรอยสักญี่ปุ่น รูปนกฟีนิกซ์ (Phoenix) มีความเกี่ยวข้องกับรอยสักมังกรเพราะทั้งคู่เป็นสัตว์ในตำนาน แต่ความหมายต่างกัน ในขณะที่มังกรมีพลัง ฟีนิกซ์เคยเป็นนกปกติแล้วหลังจากตายมันก็จะถูกไฟเผากลายเป็นเถ้าถ่าน จากนั้นมันก็จะเกิดใหม่อีกครั้งในกองขี้เถ้าและมีพลังมากขึ้นกว่าก่อน

ดังนั้นจึงใช้เป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะหรือการเอาชนะความท้าทายของเจ้าของรอยสักนั่นเอง คุณสามารถสักได้เพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณผ่านช่วงเวลาที่พยายามและรอดชีวิตมาได้ จะแสดงให้เห็นว่าคุณแข็งแกร่งขึ้นแล้ว มันเทียบเท่ากับสิ่งที่ไม่ฆ่าคุณทำให้คุณแข็งแกร่งขึ้น

  • รอยสักสิงโต เสือ หรือ สุนัขผสมสิงโต (Tiger, lion or fu-dog Tattoo)

รอยสักรูปเสือและสิงโต

ตำนานรอยสักญี่ปุ่น รูปเสือ สิงโตเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญและการป้องกัน แต่ในประเทศญี่ปุ่นและจีน สุนัขสิงโตเป็นเรื่องปกติมากขึ้น เป็นการรวมกันของสุนัขและสิงโต

สามารถมองเห็นได้ที่ทางเข้าของศาลเจ้าส่วนใหญ่ เมื่อคุณมีรอยสักนี้แสดงถึงความพร้อมของคุณเพื่อปกป้องสิ่งที่เป็นของคุณ ซึ่งคุณไม่กลัว บางคนยังเชื่อว่ามันจะหลุดพ้นจากวิญญาณชั่วร้ายและสามารถใช้ผลนั้นได้

เสือในมืออื่น ๆ ที่เป็นโดดเดี่ยวมากขึ้นและแสดงความแข็งแรงโดยบุคคล หากคุณต้องต่อสู้เพื่ออะไรด้วยตัวคุณเองหรือไม่กลัวที่จะทำอะไรสักอย่างด้วยตัวเองรอยสักนี้เหมาะสำหรับคุณ

  • รอยสักงู (Snake Tattoo)

รอยสักรูปงู คนฆ่างู หรือ ไฮดาร์

มีสิ่งมีชีวิตที่น่าสนใจกว่างูมากและนั่นก็เป็นความจริงสำหรับรอยสักอีกด้วย รอยสักงูมีความหมายหลากหลาย มันก็ขึ้นอยู่กับความหมายของคุณ บางคนคิดว่าพวกเขาปกป้องคุณจากโชคร้ายเนื่องจากคนส่วนใหญ่เห็นว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งโชคดี

นี่เป็นเหตุผลที่จะมีการเลี้ยงงูในบ้าน คนอื่น ๆ เชื่อว่ามันเป็นสัญญาณของความฉลาดเช่นเดียวกับคนฉลาดเป็นคำพูดของงู นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้มันเพื่อแสดงการเปลี่ยนแปลง งูบางครั้งหลั่งน้ำตาของมันเพื่อกำจัดปรสิตที่เติบโตบนตัวมัน แต่สิ่งสำคัญที่สุดคืองูทำเช่นนั้นเพื่อให้มีการเติบโต

คุณจึงสามารถสักรอยสักนี้เพื่อแสดงการเติบโตของคุณเองโดยการเปลี่ยนแปลงของนิสัยเก่าๆ ที่ทำให้คุณโตขึ้น

  • รอยสักโครงกระดูก (Skull Tattoo)

รอยสักรูปโครงกระดูก ซามูไร หรือปีศาจญี่ปุ่น

แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะเชื่อมโยงกะโหลกศีรษะกับความตายและอันตรายการประยุกต์ใช้ในรอยสักแบบญี่ปุ่นนั้นส่วนใหญ่เป็นการแสดงให้เห็นถึงวงจรชีวิต ชีวิตและความตายเรียงลำดับเหมือนรูปหยินและหยาง

รอยสักนี้สามารถใช้เพื่อเตือนให้คุณให้ความสำคัญกับชีวิต การมีชีวิตอย่างเต็มที่และยอมรับความตายที่เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้เป็นคำเตือนสำหรับคนที่ล่วงลับไปแล้วได้ด้วย

  • รอยสักปลาคาฟต์ญี่ปุ่น (Koi Tattoo)

รอยสักรูปปลาคาฟต์ญี่ปุ่น

เหล่านี้เป็นหนึ่งในการออกแบบรอยสักที่นิยมมากที่สุดของญี่ปุ่นเนื่องจากปลาเหล่านี้เป็นที่นิยมของชาวญี่ปุ่น ลายสักปลาคาฟต์เป็นสัญลักษณ์แห่งความพยายามเพราะปลาพยายามว่ายทวนน้ำแม่น้ำเหลืองขึ้นเหนือและเชื่อกันว่ามีเพียงไม่กี่ตัวที่ได้รับรางวัลจากการถูกสร้างให้กลายเป็นมังกร

ทุกอย่างเป็นตำนานแน่นอน แต่นี่เป็นแรงบันดาลใจสำหรับรอยสักปลาคราฟต์ทั้งหมด พวกเขาเป็นตัวแทนของการต่อสู้กับความยากลำบากอย่างใหญ่หลวงและรางวัลที่ตามมา คุณจึงสามารถสักรอยสักนี้เพื่อเตือนความเจ็บปวดที่คุณได้รับที่ผ่านมา บางทีการต่อสู้กับโรคมะเร็งหรือโรคอื่น ก็อาจจะเป็นเหตุผลของการสักรอยสักนี้

  • รอยสักคลื่นญี่ปุ่น (Water and wave tattoo)

รอยสักคลื่นญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นเป็นเกาะและเป็นเช่นนั้นคนญี่ปุ่นต้องพึ่งพาน้ำเพื่อการดำรงชีวิตของพวกเขาเป็นเวลานานบางทีนี่อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมรอยสักที่เกี่ยวข้องกับน้ำจึงเป็นเรื่องธรรมดาในวัฒนธรรมญี่ปุ่น

อย่างไรก็ตามรอยสักเหล่านี้เป็นตัวแทนของชีวิตและการจัดหาแต่คลื่นอาจเป็นอันตรายได้เช่นกันเมื่อคุณมีรอยสักเช่นนั้นอาจหมายถึงสิ่งเหล่านั้นทั้งชีวิตและความตายจะเป็นเครื่องเตือนความจำว่าชีวิตจะเปลี่ยนไปดังเช่นคลื่นของทะเลนั่นเอง

คลื่นในบางครั้งก็เงียบสงบ ซึ่งช่วยเตือนใจให้ผู้สัก รอยสักนี้มีความสงบแม้กระทั่งในยามเผชิญหน้ากับอันตรายหรือความทุกข์ยากใหญ่หลวง

4. ตัวอย่างร้านสักและราคาเบื้องต้น

  • Ichi Tattoo

ร้านสักโตเกียว

ร้านนี้มีช่างที่มีโปรไฟล์ชัดเจน 2 คน คือ

  1. Ichi Hatano (คนซ้าย) ได้รับการสักด้วยความเป็นมืออาชีพตั้งแต่ปีพศ. 2541 ปัจจุบันทำงานที่โตเกียวเขายังเคยทำงานที่ Los Angeles, San Francisco, London และในประเทศเยอรมนี เขาเชี่ยวชาญในสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมเขาตัดแต่ละรอยสักให้กับลูกค้า ผลงานของเขาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าทั่วโลก
  2. Ben Dacich ช่างที่เข้ามาเริ่มจากการเป็นลูกมือของ Ichi Hatano จนก้าวขึ้นมาเป็นช่างมืออาชีพ แบบเต็มตัว เค้าทำงานมาหลายประเทศแล้วก่อนจะเข้ามาทำงานที่ญี่ปุ่น จัดว่าเป็นช่างที่มีศิลปะแนวผสมผสานตะวันตกและญี่ปุ่นอยู่ในคนเดียวกัน

ราคาและรายละเอียดเพิ่มเติม ดูได้ที่ https://www.ichitattoo.com

  •  Three Tides Tattoo

ร้านสักโอซาก้า

ร้านนี้สาขาทั้งโอซาก้าและโตเกียว รอยสักที่มาจากช่างในร้านนี้ส่วนมากจะเป็นแนวสมัยใหม่ มีสไตร์ฮิปพอร์ปและญี่ปุ่นผสมผสานกันอย่างลงตัว ช่างประจำร้านต่างฝากผลงานไว้เป็นที่ประจักมากมาย

ราคาและรายละเอียดเพิ่มเติม ดูได้ที่ http://www.threetidestattoo.com

  • Monster Skin

ร้านสักโกเบ

ร้านที่มาจากความชอบส่วนตัวของช่างที่ชอบการสักเป็นชีวิตจิตใจ แม้ว่าเค้าจะเริ่มมาสักทีหลัง โดยอาชีพที่เคยทำก่อนหน้า คือ พ่อค้า และงานรับจ้างทั่วไป เขาก็มีความมุ่งมั่นในการฝึกฝน และได้เรียนรู้จากช่างชั้นครูอย่าง Mr. Naoki Urasawa ชื่อร้านก็ได้แรงบรรดาลใจจากครูของเค้านั่นเอง

ราคาและรายละเอียดเพิ่มเติม ดูได้ที่ http://kobe-tattoo.com

เที่ยวทั่วไทยไปไกลทั่วโลก

เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวทำอะไรดี นี่เลยแนะนำ 15 ไอเดียกิจกรรมหน้าหนาวที่ทำแล้ว คุ้มค่าที่ปากสั่น!!

เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวทำอะไรดี

หลายคนคงมีคำถามอยู่ในใจว่าไปเที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว นอกจากไปเล่นสกีแล้วมีอะไรให้ทำอีก เราจะทำให้คำถามที่ว่า เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวทำอะไรดี ได้รับคำตอบอย่างกระจ่าง ทุกแง่มุมเพียงเสียเวลาอ่านบทความของเราไม่เกิน 2 นาที รับรองว่าได้ไอเดียที่จะมาเที่ยวหน้าหนาวที่ญี่ปุ่นอีกเยอะทีเดียวครับ

อีกประมาณ 2 เดือนนับจากนี้จะเป็นหน้าหนาวและมีหิมะตกทั่วญี่ปุ่น สำหรับคนที่คุ้นเคยในกิจกรรมในยามหิมะตก หรือภายหลังหิมะตกแล้วก็คงไม่เป็นปัญหาอะไรในการ วางแผนกิจกรรมต่างๆ ของตัวเองและครอบครัว

เอาหล่ะหากคิดไม่ออกมาดูกันเลยกับ 15 ไอเดียกิจกรรมหน้าหนาวที่หน้าสนใจจากเรา EIYAIDA ครับผม

1. ปีนเขาที่เต็มไปด้วยหิมะเพื่อไปเล่นสกีโดยใช้กระเช้า

ปีนเขาเล่นสกีที่ญี่ปุ่นหน้าหนาว

ไปเล่นสกีหรือปีนเขา โดยใช้กระเช้า (Ropeway) พาขึ้นไป แล้วไต่ไปตรงหน้าผาตามรูป จากนั้นก็สนุกได้เลยครับ ใครจะรู้บางทีคุณอาจจะได้เจอหิมะถล่มจากหน้าผาไล่ตามหลังคุณมาอย่างกระชั้นชิด โดยที่ทำให้คุณได้เล่นสกีที่เปลี่ยนไปจากเดิมอีกเยอะ! เพราะที่ญี่ปุ่นมีเทือกเขากว้างใหญ่และความลาดชันไม่มาก เรียกว่าเป็นสวรรค์ของนักสกียิ่งนัก สำหรับการมาเล่นสกีที่นี่

สถานที่ที่ดีที่สุดคือ ฮอกไกโด นิกาตะ ยะมะงะตะ นากาโน่ และที่อื่น ๆ อีกมากมาย!

2. กิจกรรมยอดฮิต ของเด็กๆ คือ ตกปลาใต้ทะเลสาปที่ผิวเป็นน้ำแข็ง

ทุกสิ่งที่คุณเห็นในภาพยนตร์สามารถเกิดขึ้นได้ในญี่ปุ่นเช่นเดียวกับการวางคันเบ็ดลงไปในหลุมน้ำแข็งที่ขุดไว้พอดีๆกับการลากปลาขึ้นมาได้ เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวทำอะไรดี นี่เป็นอีกไอเดียกิจกรรมที่เหมาะกับครอบครัวในหน้าหนาว โดยที่มีค่าใช้จ่ายไม่ต้องเยอะเท่าการไปล่องเรือตัดน้ำแข็งเยอะ

ตกปลาใต้ทะเลสาปที่ผิวเป็นน้ำแข็ง

สถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการตกปลาน้ำแข็งในญี่ปุ่น คือ จังหวัดยะมะนะชิ หรือฮอกไกโด

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม:

ทะเลสาบน้ำแข็งยามานากะ

ตกปลาน้ำแข็งซัปโปโร

วางโปรแกรมท่องเที่ยวฟรี

3. แช่ออนเซนกลางแจ้งท่ามกลางหิมะ ยิ่งเป็นออนเซนน้ำนมยิ่งเลิศไปใหญ่

ไอเดียสำหรับหัวข้อ เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวทำอะไรดี อีกข้อเป็นเรื่องที่เป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้วและเป็นกิจกรรมที่ญี่ปุ่นจัดว่าเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วจากประเพณีการอาบน้ำและแช่น้ำร้อนหรือออนเซนอยู่เป็นนิจนั่นเอง

คุณสามารถเพลิดเพลินกับออนเซนได้จากหลายสถานที่ หลายภูมิภาค หลากภูมิประเทศในญี่ปุ่น แต่ขอแนะนำให้คุณไปเที่ยวโออิตะ (Beppu) ดูซักครั้ง เบ็ปปุได้มีการขนาดนามเลยว่าเป็นเมืองหลวงแห่งการแช่น้ำร้อนหรือ Onsen Capital!

เที่ยวออนเซนญี่ปุ่นหน้าหนาว

อีกสถานที่ๆมีชื่อเสียง อีกแห่งคือ Ginzan Onsen แปลว่า หุบเขาเงินแห่งการแช่น้ำร้อน (Silver Mountain Hot Spring) เป็นเมืองน้ำพุร้อนอันเงียบสงบที่ตั้งอยู่ในภูเขาของจังหวัดยามากะตะ (Yamagata) เหตุที่ได้ชื่อว่าหุบเขาเงินเนื่องจากเป็นบริเวณที่เคยเป็นเหมืองเงินเก่านั่นเอง

บริเวณพื้นที่รอบ ๆ ได้พัฒนาจากเหมืองเงินให้มาเป็นออนเซนที่สวยงามและน่ามาเยือนยิ่งนัก อย่างไรก็ตามวันนี้เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นและ มีเรียวกังประวัติศาสตร์ที่เรียงรายไปตามแนวแม่น้ำตลอดจนสถานที่ถ่ายทำละครญี่ปุ่นชื่อดังที่คนไทยรู้จักดี ใช่ครับโอชิน “Oshin” นั่นเอง

แช่ออนเซนท่ามกลางหิมะ

คุณจะสามารถเพลิดเพลินกับ Onsen กลางแจ้งได้ทุกที่และบางครั้งหากหิมะตกลงมา คุณก็สามารถชมหิมะตกในขณะแช่ออนเซนกลางแจ้งที่แสนโรแมนติกแห่งนี้ การชมหิมะตกแบบนี้ ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า “rotenburo” ด้วยการแช่น้ำท่ามกลางหิมะอันเป็นเป้าหมายหลักของหลายๆคนที่มาเยือนญี่ปุ่นหน้าหนาว

แอดว่าจะต้องไปแช่ให้ได้ซักครั้งเลยครับ แช่แต่ในร่ม ออกไปรับลมภายนอกบ้างน่าจะเป็นอะไรที่ลืมไม่ลงเลยทีเดียวครับ

4. ไปร่วมเทศกาลหิมะที่ฮอกไกโด งานนี้ห้ามพลาด

ขึ้นเครื่องบินหรือรถไฟไปฮกไกโดและเพลิดเพลินไปกับเทศกาลหิมะซัปโปโรประจำปี คืออีกคำตอบของคำถามที่ว่า เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวทำอะไรดี ของท่านได้ตรงจุด อย่างจั๋งหนับเลยครับ

เพราะนอกจากคุณจะสามารถเพลิดเพลินไปกับประติมากรรมหิมะจำนวนมากที่มีตัวการ์ตูนแอนิเมชั่นและอื่น ๆ อีกมากมาย กลางคืนคุณยังออกมาเดินชมไฟประดับหน้าหนาวที่สวยไม่เป็นสองรองใครในญี่ปุ่นอีกด้วย!

นอกจากนี้ฮอกไกโดยังเป็นสวรรค์ของอาหารฤดูหนาวที่แสนอร่อย เช่น ซุปแกงและราเมนรสชาติท้องถิ่นที่บอกเลย แซบหลายเด้อ

เที่ยวเทศกาลหิมะฮอกไกโด

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Sapporo Snow Festival

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม: http://www.snowfes.com/english/

5. ไปเดินเล่นชิวๆวิวกำแพงน้ำแข็ง ที่โทยาม่า

ไอเดียของการหาคำตอบของ เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวทำอะไรดี แบบนี้อาจต้องรีบนิดนึงเพราะกำแพงใหญ่โตะมะมะ! นี้เปิดให้ขึ้นหน้าร้อนไปจนถึงต้นฤดูหนาว ถ้าคุณได้มีโอกาสมาช่วงใบไม้เปลี่ยนสีก็แนะนำอย่างยิ่งครับ ดูใบไม้แดงบริเวณตีนเขาเสร็จ ขึ้นมาดูกำแพงน้ำแข็ง คุณจะต้องอยากกลับมาอีกอย่างแน่นอน พนันกันเลย!

กำแพงน้ำแข็ง ที่โทยาม่า

ในปี 2017 นี้เส้นทางนี้มีกำหนดจะเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 16 เมษายนถึง 30 พฤศจิกายน!

นั่งรถไฟหนึ่งชั่วโมงจากใจกลางเมืองโทะยะมะ (สถานี JR Toyama) ไปยังสถานี Tateyama ที่นี่คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับกำแพงหิมะขนาดใหญ่โดยรถสายเคเบิลรถบัสทางหลวงหรือเพียงแค่เดิน!

หรือจะใช้บริการรถตู้ไปส่งที่ต้นทางแล้วไปรอรับที่ปลายทางอีกฝั่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนะจ๊ะ เขียนเชียร์ออกนอกหน้ากันแบบนี้เลย ขายไม่ได้ให้มันรู้กันไป เอ้า!!!

บริการรถนำเที่ยวญี่ปุ่น

6. ออกมาเดินชมไฟประดับหน้าหนาว ตามสถานที่ต่างๆในโตเกียวและเมืองต่างๆ

Winter Illumination

Illumination เป็นคำสำหรับไฟคริสต์มาสในภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเป็นไอเดียที่ไม่เลวสำหรับกิจกรรมหน้าหนาวเพื่อตอบโจทย์ เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวทำอะไรดี ของเราในครั้งนี้ สถานที่ชมไฟอิลูมิเนชั่นเปิดให้เข้าชมฟรีทั้งหมด สามารถเดินเข้าชมได้ทุกที่ในญี่ปุ่น ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ในบางเมืองใหญ่ แล้วคุณรออะไรอยู่หล่ะ? รีบไปดูกันเลย

7. ทานอาหารที่จะอร่อยเป็นพิเศษ เมื่อทานหน้าหนาว

Nabe, Oden, ขนมปังนึ่ง, ผลไม้ฤดูหนาวที่สำคัญตามฤดูกาล กระเพาะอาหารของคุณคงไม่เบื่อหรอกครับ เพราะเมนูที่กล่าวมาจะทำให้คุณเพลิดเพลินกับรสชาติที่อร่อยเป็นพิเศษของมัน ไม่ต้องมาถามว่าเที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวทำอะไรดี” แล้วนะอาหารอร่อยของญี่ปุ่น ที่เอ่ยมากินทั้งทริปยังไม่ซ้ำกันเลยครับ หุหุ!

อาหารหน้าหนาวของญี่ปุ่น

คุณสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่นในช่วงฤดูหนาวได้จากบทความของเรา: อาหารญี่ปุ่นที่ดีที่สุดที่คุณควรลิ้มลองในช่วงฤดูหนาว

8. ช็อปปิ้งจนกว่าจะขาลาก เอาให้ตายไปข้าง หึหึ

ช็อปปิ้งจนขาลากที่ญี่ปุ่น

ตั้งแต่เทศกาลคริสต์มาสจนถึงวันขึ้นปีใหม่เป็นหนึ่งในเทศกาลลดราคาครั้งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นในรอบปีจากร้านค้าเล็กไปจนถึงห้างสรรพสินค้าหรือร้านของแบรนด์ทุกร้านต่างรวมใจกันมาลดราคาเพื่อนักช็อปที่มโหฬาร

ช่วงนี้เป้นที่ทราบกันดี ก่อนและหลังปีใหม่ประมาณ 2 อาทิตย์ ทุกร้านจะต้องมีถุงโชคดี มาขายในราคาที่เห็นแล้วต้องหยุดดูเลยหล่ะ ซึ่งภายในมีสินค้าอยู่จำนวนหนึ่ง เช่น รองเท้า CROC 3 คู่ราคา 3,000 เยน, หุ่นกันดั้มตัวขนาดครึ่งฟุตราคา 4,000 เยนบ้างว้าวเลยใช่ไหมครับ

มีโอกาสมาญี่ปุ่นช่วงปีใหม่มาลองหาซื้อกันได้ครับ คุณจะเป็นเหมือนหัวข้อโดยอัติโนมัติช็อปจนกว่าจะขาลาก เอาให้ตายกันไปข้าง!”

9. ไปร่วมงานประเพณีเก่าแก่ หรือ ขบวนแห่ต่างๆ (ถ้าไปตรงช่วงนะ อิอิ)

Japan Winter Festivals

ดูรายการเพลงที่มีศิลปินเวียนกันมาให้ความสุขท่านตลอดวันเลย ในช่วงปีใหม่ เรียกว่ามีรายการทีวี ตลกบ้าง เพลงเล่นสดบ้างกันข้ามปีกันเลยทีเดียวครับ เมื่อดูทีวีเสร็จแล้วทำไรต่อ สำหรับนักท่องเที่ยวอาจจะถามว่า เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวทำอะไรดี

ไม่ต้องเป็นห่วงครับ เราขอแนะนำให้ไปที่วัดและศาลเจ้าเพื่อขออธิษฐานขอพร เพื่อให้ได้รับโชค ลาภ และเพื่อความเป็นศิริมงคลของชีวิตก็ทำได้ครับ แต่อย่าลืมที่จะเพลิดเพลินกับเมนูอาหารต้อนรับปีใหม่อย่าง Osechi นะครับ แนะยังเชียร์ไม่พออีกเหรอ ฮ่าฮ่า ลองให้เค้าหน่อยนะตัวเอง หุหุ!

10. นอนอุตุใต้ผ้าห่มไฟฟ้า หรือแก๊ส อุ่นขนาด ตัวขึ้นขนหมดแล้ว

นั่งอุ่นๆ ภายใต้ผ้าห่มที่มีฮีตเตอร์

บ้านญี่ปุ่นเฟอร์นิเจอร์หลักประจำบ้าน ที่ทุกบ้านต้องมี ที่เรียกว่า “Kotatsu” ซึ่งเป็นเฟอร์นิเจอร์โต๊ะที่มาพร้อมกับสิ่งที่แนบมาด้วยคือผ้าห่มและเครื่องทำความร้อนด้านล่างไม่ต้องสงสัยว่าทำไมต้องมีกันทุกบ้าน

ปัจจุบันโต๊ะพร้อมผ้าห่มและเครื่องทำความร้อนนี้มีชื่อเสียงทั่วโลกแล้ว และแอดแน่ใจว่าเมื่อคุณได้ใช้บริการเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนี้ “kotatsu” คุณจะไม่ถามอีกเลยว่า เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวทำอะไรดี นอนหลับอุตุใต้โต๊ะและผ้าห่มไง ไม่ใช่ มาเที่ยวนะเฟ้ย ไม่ได้มาเปลี่ยนที่นอนเฉยๆ ฮ่าฮ่า

สุขใดไหนปาน ได้นอนห่มผ้าชมวิวฟูจิ อิจฉาไหมหล่า รีบไปจองตั๋วเลย รอไร หุหุ!!

11. ไปชมงานประดับไฟที่หมู่บ้านมรดกโลกชิรากาวะ ชีวิตนี้ต้องไปให้ได้ซักครั้ง

Light Up Shiragawago Japan

Shirakawa เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในเขต Ōno จังหวัดกิฟุ ประเทศญี่ปุ่น เป็นที่ที่รู้จักกันดีว่าเป็นที่ตั้งของ Shirakawa-gō ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่นำเสนอรูปแบบอาคารที่เรียกว่า Gasshō-zukuri

บ้านแบบกาสโซซูกูริคือบ้านที่สร้างด้วยโครงสร้างเป็นไม้นำมาประกอบเข้าด้วยกันโดยไม่มีน็อตหรือตะปูเลยซักดอกนะครับมีหลังคาที่มีมุมที่ชันเพื่อลดน้ำหนักของหิมะไม่ให้โหลดจนหลังคาพังหลังคาทำจากต้นหญ้าปล้องๆคล้ายต้นหญ้าที่เราเอาให้หนูตะเภากินแถวบ้านแต่ขนาดต้นเล็กกว่านำมาตากแห้งจนแข็งกรอบแต่ไม่เปราะมีน้ำหนักเบามากจึงสามารถนำมาซ้อนกันจนหนาและสามารถลดการส่งผ่านความหนาวเย็นจากหิมะเข้ามาในตัวบ้านได้

นอกจากรูปลักษณ์ที่สวยงามแล้ว ยังมีระบบระบายน้ำที่เกิดจากการละลายของหิมะ ที่ดีเอามากๆ ทั้งหมู่บ้านเลย เราไปชมแล้วจะทึ่งว่าเค้าทำได้ไง รับรองว่าไปชมดูซักครั้ง แล้วแอดเชื่อว่าคำถามที่ว่า เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวทำอะไรดี ของคุณจะได้รับการเติมเต็มทันที

นอกจากสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่งแล้วสิ่งที่ช่างภาพระดับเบเบ อย่างเราๆ ท่านๆ ทั้งหลายพลาดไม่ได้ก็คือ งานประดับไฟอันโด่งดังระดับโลก ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเที่ยวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาบ้านถูกทำให้สว่างขึ้นท่ามกลางหิมะในช่วงฤดูหนาว มันได้กลายเป็นทิวทัศน์ที่อลังกาลงานสร้างแบบ สุดๆ

ใครสนใจเดินทางไปเองช่วงงานประดับไฟไม่แนะนำนะครับเพราะคนเยอะมากๆแนะนำให้ซื้อทัวร์แบบขึ้นรถบัสจากนาโกย่าโอซาก้าและโตเกียวหรือขับรถไปเองสะดวกกว่า

อาจเช่ารถขับเองจากทาคายาม่าขับมาก็เป็นอีกวิธีที่สะดวกในกรณีเดินทางไม่เกิน 8 ท่าน แต่ถ้าเกินใช้บริการรถเช่าพร้อมคนขับเป็นทางเลือกที่น่าจะตอบโจทย์เรื่องเวลา เพราะไม่ต้องกลัวตกรถ

เว็บไซต์เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม: http://shirakawa-go.org/en/

วิธีการเดินทางไป Shirakawago จากโตเกียว;

1. โตเกียวนาโกย่า 2 ชม. (ชินคันเซง)

2. นาโกย่า – Takayama 2 ชั่วโมง (รถไฟธรรมดา)

3. Takayama-Shirakawa-go 50 นาที (ทางด่วน รถรับส่ง)

12. มุ่งหน้าสู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น และเล่นหิมะฟูๆ ที่บิเอะ ฮอกไกโด

Biei เป็นเมืองเล็ก ๆ ล้อมรอบด้วยภูมิทัศน์อันงดงามของภูเขา และทุ่งกว้างใหญ่ในฮอกไกโด วิธีการที่น่าหลงใหลในการที่จะเพลิดเพลินกับเสน่ห์ของ Biei คือฝั่งตะวันตกของสถานี JR Biei ซึ่งเป็นที่รู้จักสำหรับจุดชมวิวสำหรับเคล็ดลับที่ปกคลุมไปด้วยหิมะของ Taisetsuzan ซึ่งตัดกันดินที่เปลือยเปล่า สวน Northwest Observatory Park, Seven Star Tree และ Mild Seven อยู่ฝั่งนี้ของ Biei

เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวที่บิเอะ

พื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของใจกลางเมืองมีชื่อว่า “Patchwork Road” และบริเวณด้านใต้ของใจกลางเมือง คือ ”Panorama Road” เห็นแต่ละชื่อไหมครับ เวิ้งว้างน่าดู

Winter View at Blue Pond

นอกเหนือจากการเที่ยวชมสถานที่และการถ่ายภาพทางตะวันออกของเทือกเขาแล้ว คุณจะได้พบกับพื้นที่ Shirogane Onsen ซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินกับ onsen ในร่มรวมทั้งอาหารฤดูหนาวพื้นเมืองที่อร่อยของฮอกไกโดได้

การเดินทางมา Biei:

15 นาทีโดยรถยนต์จากสนามบินอาซาฮิกาว่า

จากซัปโปโรทางรถยนต์ ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 30 นาทีผ่านทางด่วนฮอกไกโดและเส้นทาง 237 จากด่านเก็บเงิน Asahikawa Takasu

จากซัปโปโรโดยรถไฟเจอาร์ใช้เวลา 120 นาทีจากสายหลัก Hakodate จาก Sapporo ถึง Asahikawa

เว็บไซต์: http://www.biei-hokkaido.jp/en/

13. ใส่ชุดกิโมโนเดินชม สิ่งก่อสร้างสมัยเก่าที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ได้วิวที่แปลกตาไปอีกแบบ

เที่ยวเกียวโตหน้าหนาว

ฤดูหนาวเป็นฤดูที่เงียบที่สุดในเกียวโตทิวทัศน์ในเมืองเกียวโตปกคลุมด้วยหิมะสีเงินเป็นสิ่งมหัศจรรย์โดยเฉพาะวิหารและวัดวาอาราม

ในฤดูหนาวของกรุงเกียวโตคุณสามารถไปเที่ยวชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และวัดวาอารามที่เต็มไปด้วยหิมะ หรือไปเที่ยวชมสถานที่ทางวัฒนธรรมและเข้าร่วมพิธีกรรมบางอย่าง แต่หลักๆ ถ้าคุณได้มาเดินถือร่มในชุดกิโมโน ท่ามกลางหิมะที่โปรยปราย แล้วถ้าทริปของคุณมีช่างภาพมือดีหน่อย รับรอง ไอเดียนี้ของเราขายได้ แบบขายแล้วขายอีกแน่ๆ คุณจะมาซ้ำอีกแน่นอน ใช่ไหมครับ

แพคเกจทัวร์ทั่วโลก

14. ถ่ายรูปลิงแช่ออนเซน แบบขำๆ แช่จนตัวแดงไปหมดละ

นี่คือสถานที่ในนากาโน่ซึ่งคุณสามารถมองเห็นลิงหิมะ” (ลิงญี่ปุ่น) ที่ในหน้าหนาวที่หนาวเย็นมาลงแช่น้ำออนเซน ณ สวนสาธารณะจิโกคุดานิ (Jigokudani Yaenkoen)

สวนนี้เปิดขึ้นในปีพ. . 2507 และนับแต่นั้นมานักท่องเที่ยวหลายพันหลายหมื่นคนจากทั่วโลกได้เข้าเยี่ยมชมอุทยานเพื่อดูวิถีชีวิตของลิงญี่ปุ่นในสวนแห่งนี้

ลิงญี่ปุ่น หรือชื่อสายพันธุ์คือ Macaca fuscata เป็นลิงที่อาศัยอยู่ในภาคเหนือของประเทศญี่ปุ่นและเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ไม่ใช่มนุษย์ที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือมากที่สุดในช่วงฤดูหนาวที่อุณหภูมิต่ำกว่า -15 องศาเซลเซียสได้

พวกมันมีขนสีน้ำตาลเทาหน้าแดงมือและตูดแดง หางสั้น และมักจะดูเหมือนมนุษย์อย่างน่าทึ่ง สามารถเลียนแบบมนุษย์ได้เกือบทุกอย่าง ยกเว้นพูด

ถ่ายรูปลิงออนเซนที่นากาโน่

สวนสาธารณะตั้งอยู่ในหุบเขาโยโกยุ มีแม่น้ำชื่อเดียวกันกับหุบเขาไหลลงมาจากน้ำตกชิกะ (Shiga Kogen Fall) ที่ระดับความสูง 850 เมตร พื้นที่นี้เรียกว่า Jigokudani (หุบเขาแห่งนรก) เนื่องจากหน้าผาสูงชันและน้ำร้อนที่ออกมาจากพื้นพื้นโลก

นอกจากนี้ยังเป็นสภาพแวดล้อมที่ทุระกันดาลในช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะตกอยู่บนพื้นดินเป็นเวลาสามปีอย่างต่อเนื่องแต่ก็ยังเป็นสวรรค์สำหรับพวกลิงที่อาศัยอยู่ที่นั่นได้ระวังกล้องและโทรศัพท์ของคุณเวลาอยู่ใกล้ๆมัน

ที่อยู่: 6845 Yamanouchi-machi, Shimotakai-gun, Nagano

การเดินทาง:

นั่งรถบัสไปยัง Kanbayashi Onsen จากสถานี Yudanaka (ประมาณ 10-15 นาที) จากนั้นใช้เวลาเดิน 30-40 นาทีไปยัง Monkey Park

หรือ Shibu Onsen (5-10 นาที) ลงที่ป้ายรถเมล์ “Snow Monkey Park” และเดินไม่ไกลประมาณ 10 นาที

เวลาที่เหมาะสม:

เมษายนตุลาคมเวลา 8.30 . ถึง 17.00 .

พฤศจิกายน – 9:00 . ถึง 4:00 .

ค่าเข้า: 500 เยน

เว็บไซต์: http://jigokudani-yaenkoen.co.jp/

15. นั่งรถไฟไปทานมื้อค่ำที่กระท่อมหิมะ ชมดาวยามค่ำคืน ชีวิตจะน่าอิจฉาไปไหน

ไปชมบรรยากาศ บ้านชาวเอสกีโมสไตร์ญี่ปุ่นกันครับ ทานนาเบะสไตร์ญี่ปุ่นโบราณ ในบรรยากาศกระท่อมหิมะ กินกับข้าวปั้นพื้นเมืองที่ทำจากข้าวที่ปลูกในพื้นที่ ทานข้าวเสร็จก็เดินเล่น ชมดาว ท่ามกลางหิมะ โอ้ยฟินไปไหน
กินนาเบะในกระท่อมหิมะ
งาน Festival ปี 2018 มีพร้อมกับงานเทศกาลหิมะประจำปีของจ.นางาโน่ครับ

Kamakura Snow Hut Festival : 11-12 Feb 2018

ชอบบทความจาก EIYAIDA ช่วยเป็นกำลังใจให้ง่ายๆ แค่กดไลค์ กดแชร์บทความนี้เพื่อให้คนที่คุณรักได้รับรู้เรื่องราวดีๆนี้ด้วยนะครับ ทีมงานขอขอบคุณที่ได้มีโอกาสช่วยเติมเต็มอรรถรสในการเดินทางท่องเที่ยวของท่านให้สนุกสนานยิ่งขึ้น

วางโปรแกรมเที่ยวกับไกด์มืออาชีพฟรี!!!
ง่ายๆเพียง คลิ๊กที่นี่!!

12 อาหารหน้าหนาวของญี่ปุ่น ที่คุณควรลิ้มลอง รับรองอร่อยเหลือเชื่อเลยแหละ!!

อาหารหน้าหนาวของญี่ปุ่น

อาหารญี่ปุ่นจัดว่ามีชื่อเสียงระดับโลกและเป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว สำหรับบ้านเราอาหารที่คุ้นเคยจำพวกซูชิและอุด้งหรือ เนื้อย่างวากิวที่เลื่องชื่อ วันนี้เราไม่ได้มาพูดถึงอาหารเลิศรสดังกล่าว แต่เรากำลังพูดถึง 12 อาหารหน้าหนาวของญี่ปุ่น ที่เราจะนำมาเสนอนี้มีดียังไง อาหาร 12 อย่างนี้ไม่ใช่แค่อาหารตามเทศกาลเท่านั้น ยังเป็นอาหารญี่ปุ่นที่มีทานได้ทุกฤดูกาลแล้วอร่อยถูกปากคนไทยยิ่งนัก แต่พอเราเอาทานหน้าหนาวแล้ว จะให้ความรู้สึกที่อร่อยเหลือเชื่อมากกว่าเดิมหลายเท่าเลยหล่ะครับขอบอก!!!

แต่จะว่าไป 12 เมนูนี้ จะเป็นอาหารพวกต้มๆ ซะส่วนใหญ่ เพราะร่างกายต้องการความอบอุ่น เมื่อได้ทาน นาเบะที่คัดสรรความอร่อยมาให้เราๆ ท่านๆ นักท่องเที่ยวหรือว่าจะเป็นคนญี่ปุ่นเองได้ลิ้มลองกันแบบจัดเต็มแบบนี้ ต้องลองมาดูซิว่า จะเจ๋งขนาดไหน

เมื่อคุณไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงฤดูหนาวก็อย่าลืมไปหามาทานกันได้ครับผม

Bus More Than 32 Seats

1. Daikonoroshi nabe

อาหารหน้าหนาวของญี่ปุ่น Daikonoroshi nabe

อาหารจานร้อนในรายการแรกของ 12 อาหารหน้าหนาวของญี่ปุ่น ของเราคือ หม้อซุปเดือดปรุงรสด้วยหัวไชเท้าขูด เสิร์ฟพร้อมผักและเนื้อสัตว์หลากหลายชนิด หรือชื่อเรียกว่า “daikonoroshi nabe” มีหลากหลายของวัตถุดิบเพื่อให้ทุกคนสามารถเพลิดเพลินได้โดยไม่ต้องสงสัย แค่การตกแต่งโดยเอาหัวไชเท้ามาปั้นเป็นรูปตัวตุ๊กตาวางในหม้อของนาเบะก็อยากจะรีบใช้ช้อนตักน้ำมาซดแล้วหล่ะครับ

การตกแต่งหม้อสุกี้ ได้กลายเป็นสิ่งที่สำคัญพอๆกับรสชาตของนาเบะไปซะแล้ว! หลายคนถึงขั้นค้นหาร้านที่แต่งหน้า แต่งหม้อของ daikonoroshi ที่น่ารักที่สุดในญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว!

หาทานกันไมายากครับ มีเกือบทุกย่านในญี่ปุ่น ถ้ามีโอกาสจะหาร้านที่แข่งกันเรื่องความสวยงามของหม้อนาเบะมาฝากละกันนะครับ^^

2. Kimchi nabe

อาหารหน้าหนาวของญี่ปุ่น Kimchi nabe

อาหารเกาหลีที่มีชื่อเสียงคือ กิมจิ เป็นที่นิยมอย่างมากเช่นเดียวกันในประเทศญี่ปุ่น เมื่อกะหล่ำปลีผักดองเผ็ดและเปรี้ยวแล้วเอามาใส่ในเครื่องปรุงเพิ่มในน้ำซุปที่เดือดพล่าน พร้อมเนื้อสัตว์และผักต่างๆ มันสร้างสรรค์ให้เมนูนี้ของคุณเป็นจานที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น สำหรับผู้ที่ชอบอาหารที่มีรสชาตจัดจ้านขึ้นมานิดนึง เป็นอะไรที่ฟินเลยหล่ะครับ

สำหรับบ้านเรา สบมยห. อย่าใส่เยอะเดี๋ยวจะรักห้องน้ำเพราะท้องเสีย แถมหนาวอีกแล้วจะหาว่าไม่เตือนนะจ๊ะ ^^

3. Mizutaki

Mizutaki - อาหารหน้าหนาวของญี่ปุ่น

Mizutaki เป็น อาหารหน้าหนาวของญี่ปุ่น ที่คล้ายกับ nabe นั่นแหละครับหม้อไฟร้อนๆนี้จะมีผักปลาและเนื้อปรุงสุกในน้ำซุปแต่ที่ไม่เหมือนนาเบะคือน้ำซุปที่ไม่ได้ปรุงแต่งด้วยถั่วเหลืองหรือมิโซะหลักๆทั้งหม้อมักจะเต็มไปด้วยผักเช่นเห็ดกะหล่ำปลีและถั่ว

Mizutaki เป็นอาหารพื้นเมืองของเมืองฟุกุโอกะ แต่กลายเป็นที่นิยมแพร่หลายทั่วประเทศด้วยรสชาติที่อร่อยและทำง่าย

4. Mochi

Mochi - อาหารหน้าหนาวของญี่ปุ่น

Mochi เป็นหนึ่งในรายการอาหารที่มีไว้สำหรับการเฉลิมฉลองปีใหม่แบบดั้งเดิม เค้กข้าว ที่ทำมาจาก ข้าวญี่ปุ่นแบบสั้น ที่ทำเป็นแป้งแล้ว นำมาปั้นขึ้นรูปทำเป็นก้อนโมจิ ด้วยรสชาติที่แตกต่างกันของ mochi เสิร์ฟรวมกับขนมหวานรวมทั้งอาหารจานพิเศษอื่นในช่วงปีใหม่

ซุปที่เรียกว่า Zoni เสิร์ฟพร้อมกับ เค้กข้าวหรือโมจิข้าว ผัก เช่น แครอท เผือกและ ซูริมิอบแห้ง (kamaboko) หรือลูกชิ้นปลาบดนั่นเอง ทานด้วยกันกับชาญี่ปุ่นร้อนๆ ที่มีรสขมปนฝาดนิดๆ โอ้ย แอดอยากไปจองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นตอนนี้เลย หุหุ

5. Motsu nabe

Motsunabe - อาหารหน้าหนาวของญี่ปุ่น

อีกเมนูของ อาหารหน้าหนาวของญี่ปุ่น “motsu-nabe” เป็นอาหารพื้นเพมาจากฟุกุโอกะ มีการปรุงส่วนผสมหลักด้วยเนื้อวัวที่ต้มจนเปื่อย ด้วยน้ำซุปสูตรพิเศษที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่โซนทางใต้ของญี่ปุ่น เนื้อหมูก็มีการหมักด้วยเครื่องเทศพิเศษ ใส่ลงไปในหม้อพร้อมกะหล่ำปลีและใบกระเทียม นาเบะแบบนี้กลายก็เป็นที่นิยมของคนทั่วประเทศได้ไม่ยาก เพราะทำง่าย รสชาติยอดเยี่ยมและราคาถูก วัสดุหาง่ายสะดวกที่จะทานในหน้าหนาวเพราะ ไม่ต้องเตรียมอะไรเยอะ

6. Oden – อาหารหน้าหนาวของญี่ปุ่น

Oden - อาหารหน้าหนาวของญี่ปุ่น

Oden เป็นอาหารที่มีชื่อเสียงโดยทั่วไปอยู่แล้ว ซึ่งโอเด้งนี้มีขายตามท้องถนน และตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป เหมาะกับหน้าหนาวเพราะได้ซดน้ำอุ่นๆคงให้ความอบอุ่นแก่รางกายดีไม่น้อยเลย

โอเด้งนี้มีส่วนผสมที่หลากหลาย เช่น ไข่ เต้าหู้เค้ก (konnyaku yam) หัวไชเท้า (Daikon) และ ปลาบดหรือลูกชิ้นปลา (fishcake) ปรุงสุกในน้ำซุปซอสถั่วเหลืองเป็นเมนูที่ต้องทานเลยหล่ะครับถ้าคุณเดินตามท้องถนนในญี่ปุ่นในช่วงฤดูหนาว

7. Osechi

Osechi - อาหารหน้าหนาวของญี่ปุ่น

Osechi เป็นเมนู อาหารหน้าหนาวของญี่ปุ่น แบบดั้งเดิมที่มีในปีใหม่ กล่องอาหารกลางวันแบบดั้งเดิม (Bento) เหล่านี้เป็นแบบเลือกเอง จะใส่อะไรก็ใส่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 และอาหารที่รวมอยู่ในกล่องอาหารมีการอ้างอิงสัญลักษณ์ ตัวอย่างเช่น komaboko, cruise surimi เป็นสัญลักษณ์ของดวงอาทิตย์ที่กำลังขึ้นของญี่ปุ่นเนื่องจากมีรูปร่างและสีสันและมีความหมายเหมาะที่จะเป็นอาหารตามเทศกาล

Konbu คือสาหร่ายทะเลชนิดหนึ่งที่มีความเกี่ยวข้องกับคำว่า yorokobu ซึ่งหมายถึง ความสุข ในขณะที่ kuromame คือถั่วเหลืองอ้างอิงถึงสุขภาพที่ไม่เพียง แต่ความหมายที่แปลว่าถั่วเท่านั้น แต่ยังมีสัญลักษณ์ถึงสุขภาพอีกด้วย

ดังนั้นเมนูนี้จึงเหมาะที่จะทำในวันปีใหม่เพราะทานแล้วมีสุขภาพดีและมีความสุขสนุกสนานนั่นเอง

8. Ramen

Ramen - อาหารหน้าหนาวของญี่ปุ่น

ในขณะที่ราเมนเป็นอาหารที่สามารถทานได้ตลอดทั้งปีในหน้าหนาวนี้ ถ้าได้ราเมนสักถ้วยจะทำให้ร่างกายคุณอุ่นขึ้นอย่างแน่นอน ชามก๋วยเตี๋ยวแสนอร่อยจะเสิร์ฟในน้ำซุปมิโซะผสมถั่วเหลือง เกลือที่ปรุงรสและส่วนผสมหลักอื่นๆ เช่นผักต่างๆ เนื้อสัตว์ เต้าหู้หรือไข่ งา การเขี้ยวน้ำซุปกับกระดูกหมู วาย หรือเต้าหู้ก็ให้รสชาติที่แตกต่างของราเมน

ส่วนที่สำคัญอีกส่วนคือ เส้นของราเมนที่เป็นสูตรลับต้นตระกูลของแต่ละครอบครัว ทำให้ร้านอาหารเล็กๆ ในซอยแค็บๆก็สามารถสู้กับภัตรคารใหญ่โตได้เลย และนี่คืออีกมนต์สเหน่อีกอย่างของร้านอาหารในญี่ปุ่นครับ

หลายภูมิภาคในญี่ปุ่นมีรสชาตของราเมนที่ต่างกันและที่เป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาคนั้นๆ ดังนั้นอย่าลืมที่หาและทดลองชิมกันให้ครบทุกชนิดกันนะครับ ไม่ว่าจะเป็นราเมนในพื้นที่ทางใต้ ราเมนย่านคนเกาะ ราเมนเมืองหนาวหรือราเมนแชมป์เปี้ยนชื่อดังอื่นๆ

9. White stew

White Stew - อาหารหน้าหนาวของญี่ปุ่น

บ้านเราน่าจะมองว่าเป็นโจ๊กนะครับ อาจมีส่วนผสมของครีมที่ทำให้ อาหารหน้าหนาวของญี่ปุ่นเมนูนี้มีความคล้ายกับเมนูตะวันตกมากแต่ในความเป็นจริงอาหารชนิดนี้ของญี่ปุ่นมีส่วนผสมที่ไม่เหมือนของชาวตะวันตกไม่ว่าจะเป็นผักและเนื้อสัตว์หรืออาหารทะเลและครีมสีขาวของสตูว์ขาวรสชาตแบบญี่ปุ่นนั้นให้รสชาตที่อร่อยและมีเอกลักษณ์ชัดเจนมากเลยทีเดียว

เป็นอีกเมนูที่เวลามาเยือนญี่ปุ่นในหน้าหนาวแล้วถ้าได้ทานนะ คุณจะหลงรักเลยหล่ะ เชื่อดิ!

10. Yakiimo

Yakiimo - อาหารหน้าหนาวของญี่ปุ่น

Yakiimo แปลว่ามันฝรั่งอบแต่จริง ๆ แล้วมันคือมันเทศญี่ปุ่นที่มีรสชาตดีกว่ามันฝรั่งมาก เพราะมันเป็นหนึ่งในขนมหวานของญี่ปุ่นที่ทำง่าย ทำจากมันเทศสีม่วงและสีเหลือง ย่างเปลือกไปพร้อมกัน เปลือกจะทำหน้าที่เหมือนที่ห่อหุ้มชั้นแรกที่สัมผัสกับความร้อน เมื่อสุกได้ที่เราก็ใช้วัสดุเช่นกระดาษผ้าเช็ดปาก หรือ กระดาษสีหม่นๆสไตร์ญี่ปุ่นห่ออีกชั้น เพื่อการรักษาความหวานอร่อยของมันข้างใน และเพื่อให้ง่ายต่อการทาน เป็นอาหารที่หาทานได้ง่ายในวันที่อากาศหนาวเย็นและที่สำคัญอร่อยเอามากๆ

วางโปรแรมเที่ยวกับมืออาชีพ

11.Yose nabe

Yosenabe - อาหารหน้าหนาวของญี่ปุ่น

Nabe เป็นอาหารญี่ปุ่นทั่วไปที่เป็นที่นิยมในช่วงฤดูหนาว คุณจะเห็นว่ามี nabe หลายรายการอยู่ในรายชื่อของ อาหารหน้าหนาวของญี่ปุ่น ของเราที่กล่าวมาทั้งหมดเช่นกัน และนี่ก็เป็นอีกเมนูหม้อไฟที่ต้องไปหาทานกันครับ น้ำซุปสูตรลับที่เป็นของแต่ละร้าน เนเบะร้านนี้ก็เป็นอีกแบบที่ไม่ควรพลาด

Yosenabe หมายถึงหม้อใส่อาหารเมนูนี้ทำจากส่วนผสมที่แตกต่างกันทุกชนิดปรุงด้วยน้ำซุปซอสมิโซะหรือซอสถั่วเหลือง เนื้อสัตว์ อาหารทะเล ผัก เต้าหู้และไข่ เป็นอาหารมื้อใหญ่ที่จะทำให้คุณอบอุ่นในฤดูหนาวที่หนาวเย็นของญี่ปุ่นและยังให้คุณค่าทางอาหารครบถ้วนเลยทีเดียว

12. Zosui and Okayu

Zosui and Okayu - อาหารหน้าหนาวของญี่ปุ่น

Zosui เป็นอาหารญี่ปุ่น ที่ทำจากข้าวและน้ำคล้ายกับข้าวต้ม (Okayu) เมนูทั้งสองมีความคล้ายคลึงกันโดยมีวัตถุดิบหลักมาจากข้าวที่ปรุงสุกเพื่อให้มีความคงตัวจะว่าไปก็ข้าวต้มบ้านเรานี่แหละครับใช้เสิร์ฟให้คนป่วยเหมือนกันด้วย

อย่างไรก็ตาม โอเคยูเป็นเหมือนข้าวโจ๊ก ส่วน zosui ก็เหมือนซุปที่มีข้าวอยู่ หรือข้าวต้มบ้านเรานั่นหล่ะครับ บ่อยครั้งที่เวลาทานนาเบะเหลือ ก็จะนำที่เหลือมาทำเป็น zosui โดยใส่ข้าวสุกเพิ่มเข้าไปในหม้อที่เหลือทั้งน้ำซุปและผัก เพิ่มวัตถุดิบพวกเนื้อ หมึก กุ้งเข้าไปก็อร่อยเลิศแล้วครับ^^

ชอบบทความจาก EIYAIDA ช่วยเป็นกำลังใจให้ง่ายๆ แค่กดไลค์ กดแชร์บทความนี้เพื่อให้คนที่คุณรักได้รับรู้เรื่องราวดีๆนี้ด้วยนะครับ ทีมงานขอขอบคุณที่ได้มีโอกาสช่วยเติมเต็มอรรถรสในการเดินทางท่องเที่ยวของท่านให้สนุกสนานยิ่งขึ้น

15 สถานที่ ช็อปปิ้งย่านกินซ่า ที่ทำให้คุณต้องหยุด โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งนั้น อิอิ

ช็อปปิ้งย่านกินซ่า

กินซ่าเป็นพื้นที่ที่มีราคาแพงที่สุดในโตเกียว ดังนั้นพื้นที่นี้จึงเป็นที่รู้จักมากที่สุดในย่านช็อปปิ้งระดับไฮเอนด์ อย่างไรก็ตามการ ช็อปปิ้งย่านกินซ่า ก็มีความจริงก็คือที่กินซ่าคุณสามารถเพลิดเพลินกับการช็อปปิ้งที่น่าตื่นตาตื่นใจจากผลิตภัณฑ์สุดหรูไปจนถึงสินค้าหลากหลาย เช่น สินค้าประเภทเครื่องเขียนไปจนถึงผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นจากแต่ละภูมิภาคของญี่ปุ่น

ถ้ากระหายที่จะช้อปปิ้งคุณต้องไปตามหาเป้าหมายได้ที่ Ginza และค้นหาสถานที่ช็อปปิ้งที่แนะนำ 15 แห่งนี้เพื่อให้ได้ประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ดีที่สุดในโตเกียว

1.Antenna Shops

ช็อปปิ้งย่านกินซ่า ที่ Antenna Shops

 

“Antenna Shops” เป็นที่ที่คุณสามารถซื้ออาหารท้องถิ่นอาหารในภูมิภาคและสินค้าจากเขตการปกครองอื่นๆทั่วประเทศญี่ปุ่นได้และการรวมสินค้าต่างๆที่กล่าวมาให้อยู่ในพื้นที่กินซ่ารัฐบาลท้องถิ่นอนุมัติให้ร้านค้าเหล่านี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและเป็นวิธีที่ดีในการประชาสัมพันธ์อาหารและสินค้าญี่ปุ่น

ช็อปปิ้งย่านกินซ่า แล้วอยากได้สินค้าท้องถิ่นของญี่ปุ่นโดยไม่ต้องเดินทางไปถึงพื้นที่นั้นๆ มาที่นี่ครับ เพราะที่นี่มีร้านดังในแต่ละท้องถิ่นกว่า 30 แห่ง ไม่ว่าจะเป็น Kotsu Kaikan รวมทั้งร้าน “Dosanko Plaza” ของฮอกไกโด Antenna Shops ตั้งอยู่หน้าสถานี JR Yurakucho พอดีๆเลยครับ

Website: kotsukaikan

2.Ginza Chuo Street

ช็อปปิ้งย่านกินซ่า ที่ Ginza Chuo Street

นี่คือถนนช้อปปิ้งหลักของกินซ่าเลยครับ ซึ่งการมา ช็อปปิ้งย่านกินซ่า นี้ถนนเส้นนี้เป็นสถานที่ที่น่าเที่ยวมากที่สุดแห่งหนึ่งที่คุณควรจะได้เห็นเมื่อมา ช็อปปิ้งย่านกินซ่า ถนน Ginza Chuo เริ่มจาก Ginza 1 Chome ถึง 8 Chome เป็นที่ตั้งของร้านค้าแบรนด์ระดับไฮเอนด์ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ ในย่าน Ginza Chuo Street ท่านจะเพลิดเพลินกับการเดินเล่นและช้อปปิ้งบนถนนคนเดินวันในอาทิตย์ สถานที่นี้ห้ามพลาดเด็ดขาดครับ ถ้ามาโตเกียว ต้องมา!!

Address: Ginza Chuo Street, Ginza, Tokyo

วางโปรแรมเที่ยวกับมืออาชีพ

3.Ginza Hakuhinkan Toy Park

ช็อปปิ้งย่านกินซ่า ที่ Ginza Hakuhinkan Toy Park

นี่เป็นสถานที่ที่แนะนำสำหรับทุกเพศทุกวัย ซึ่งคุณสามารถซื้อของเล่นสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ได้ มีแท่น Mini-4WD ขนาดใหญ่อยู่ที่ชั้น 4 ซึ่งคุณสามารถนำ Mini-4WD ของคุณมาวิ่งในลู่ได้ครับ

Address: 8 Chome-8-11 Chuo, Ginza, Tokyo

Website: hakuhinkan.co.jp

4.Ginza Mitsukoshiช็อปปิ้งย่านกินซ่า ที่ Ginza Mitsukoshi

Ginza Mitsukoshi เป็นห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นก่อตั้งขึ้นในปีค. . 1673 Mituskoshi การมา ช็อปปิ้งย่านกินซ่า คุณจะได้ทุกสิ่งทุกอย่าง รวมทั้งเสื้อผ้าสำหรับผู้หญิง ผู้ชาย เด็ก ของกินอร่อยที่สุด เครื่องมือครัวของเล่น คุณจะสนุกกับการเลือกสินค้าที่มีคุณภาพสูงที่สุดในญี่ปุ่นและทั่วโลก ห้างแห่งนี้มีอยู่ทั้งหมด 7 ชั้น มีห้องอาหารญี่ปุ่นที่ยอดเยี่ยม

ดังนั้นเมื่อคุณเหน็ดเหนื่อยในการท่องเที่ยวคุณสามารถนั่งและเพลิดเพลินกับอาหารอร่อยได้โดยไม่ต้องไปเดินหาทานข้างนอกห้าง สะดวก ของครบ มาเลยไม่ผิดหวัง

Address: 4-6-16, Ginza, Chuo-ku, Tokyo

Website: mitsukoshi.store

5.Itoya Ginza

ช็อปปิ้งย่านกินซ่า ที่ Itoya Ginza

Itoya Ginza เป็นร้านขายเครื่องเขียนที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียว ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ. . 2447 คุณจะพบกับแกดเจ็ตฝีมือและการ์ดญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงไม่จำกัด จำนวนกระดาษ สี ฯลฯ นอกจากนี้คุณยังสามารถเพลิดเพลินในการเลือกซื้อโลกที่สวยที่สุด ซึ่งเป็นบางส่วนจากคอลเล็กชันอันทรงเกียรติของ 50 ชนิดของโลกที่แตกต่างกัน

Address: 2 Chome-7-15 Ginza, Chuo, Tokyo

Website: itoya-Ginza

6.Kabukizaช็อปของฝากแนวญี่ปุ่นดีๆที่ Kabukiza

Kabukiza เป็นโรงละครของ Kabuki แต่ยังเป็นสถานที่ที่คุณสามารถซื้อของที่ระลึกของ Kabuki และผลิตภัณฑ์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมอื่น ๆ ได้ นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟขนาดเล็กที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับบริการนุ่มกาแฟ เพื่อหยุดพักจากการ ช็อปปิ้งย่านกินซ่า อยากเอาจริงเอาจังมาแล้วครับ

Address: Ginza 4-12-15, Chuo-ku, Tokyo

Website: kabuki-bito

7.LUMINE Yurakucho

ช็อปปิ้งย่านกินซ่า ที่ LUMINE Yurakucho

Lumine Yarakucho เป็นห้างสรรพสินค้าที่หรูหรามาก ๆ มีอาคาร LUMINE, LUMINE1 และ LUMINE2 อยู่ 2 แห่งพร้อมด้วยเสื้อผ้าที่ยอดเยี่ยมและอาหารเลิศรสที่พิเศษสุด ร้านค้าที่นี่มีไว้สำหรับสุภาพสตรี 20 ถึง 30 ปี

Address: 2-5-1 Yurakucho, Chiyoda, Tokyo

Website: lumine

8.Marronnier Gate

ช็อปปิ้งย่านกินซ่า ที่ Marronnier Gate

Marronnier Gate เป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน นอกจากนี้ยังจะขยายอาคารในเดือนมีนาคมปีพ. . 2560 ซึ่งเป็นการฟื้นฟูพื้นที่ของ PRINTEMPS Ginza ยังดึงดุดให้คนมา ช็อปปิ้งย่านกินซ่านี้มีความเพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น

ในขณะนี้ ที่นี่คุณจะสามารถเยี่ยมชมร้านค้าเล็ก ๆ มากมาย เช่น ร้าน Tokyu Hands 5 ชั้น; ร้านค้าที่คุณสามารถซื้อสิ่งที่ต้องทำในเมืองศิลปะ งานฝีมือต่างๆ ของแต่งบ้าน ของฝากที่เป็นญี่ปุ่นแท้ๆ

Adress: 2 Chome-2-14 Ginza, Chuo, Tokyo

Website: marronniergate

9.Matsuya Ginzaช็อปปิ้งย่านกินซ่า ที่ Matsuya Ginza

Matsuya Ginza เป็นอีกหนึ่งห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่คุณสามารถหาแบรนด์เสื้อผ้าและเครื่องประดับระดับโลกได้ นอกจากนี้ยังมีชั้นร้านอาหารซึ่งคุณสามารถพักผ่อนและไปผจญภัยกับการ ช้อปปิ้งย่านกินซ่า ต่อไปได้

นอกจากนี้ยังมีหอศิลป์อยู่ที่ชั้น 8 นิทรรศการมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลและเป็นสถานที่ที่ดีในการหยุดยั้งการพักผ่อนด้วยการสัมผัสศิลปะบางอย่างในขณะช้อปปิ้งก็เปลี่ยนบรรยากาศดีนะครับ

Adress: 3-6-1 Ginza, Chuo-ku, Tokyo

Website: matsuya

10.MUJI Yurakucho

ช็อปปิ้งย่านกินซ่า ที่ MUJI Yurakucho

Muji Yarakucho เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายร้าน Muji ซึ่งเป็นที่รู้จักและแพร่หลายไปทั่วญี่ปุ่นและบางส่วนของโลก นี่เป็นหนึ่งในร้านค้า MUJI ที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียว คำขวัญของ บริษัท คือการจำหน่ายสินค้าไม่มีชื่อรายการไม่มีตราก็จะทำให้คุณเข้าใจได้ว่าร้านนี้คุณภาพเป็นเกณฑ์เท่านั้น Muji Yurakucho นี้ตั้งอยู่ติดกับ Yurakucho Loft  มา ช็อปป้งย่านกินซ่า แวะมาหาสินค้ากันได้ จะมาแบบใหม่หว่าเมืองไทย แต่คุณภาพไม่ต่างกันจ้า

Address: Marunouchi, 3−8−3, Tokyo

Website: muji-Yarakucho

11.Sanrio World GINZA

ช็อปปิ้งย่านกินซ่า ที่ Sanrio World GINZA

ถ้าคุณอยู่ในกินซ่าและคุณจำเป็นต้องซื้อของขวัญสำหรับเพื่อนของคุณ Sanrio World คือ ห้างสรรพสินค้าที่คุณต้องไปเยี่ยมชมอย่างแน่นอนครับ เพราะนี่คือร้านสินค้า Sanrio ที่ใหญ่ที่สุดในโลก!!!

นี่เป็นสถานที่สำหรับแฟน ๆ ของ Hello Kitty, My Melody ฯลฯ มา ช็อปปิ้งย่านกินซ่า เป็นเป้าหมายหลักเช่นกันที่ต้องมาเยี่ยมจ้า

Address: 4-1 Saki, Ginza, Chuo-ku, Tokyo

Website: sanrio-ginza

12.Tokyu Plaza Ginza

ช็อปปิ้งย่านกินซ่า ที่ Tokyu Plaza Ginza

Tokyu Plaza Ginza เป็นห้างสรรพสินค้าที่เพิ่งเปิดใหม่ในเดือนมีนาคม 2016 ในการ ช็อปปิ้งย่านกินซ่า นี้คุณสามารถพบกับแบรนด์ชั้นนำของโลกและแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในญี่ปุ่นได้มากที่สุดที่นี่ครับ

นี่เป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการช็อปปิ้ง แต่ยังเพื่อความบันเทิง คุณจะรักสถานที่สองแห่งนี้คือ ชั้น 6 และชั้นดาดฟ้าเป็นสถานที่จัดกิจกรรมเพื่อความบันเทิงและสามารถมองเห็นวิวของเมืองได้

Address: 5 Chome-2-1 Ginza, Tokyo

Website: tokyu-plaza-ginza

13.Yurakucho Itocia

ช็อปปิ้งย่านกินซ่า ที่ Yurakucho Itocia

ศูนย์การค้าแห่งนี้มีขนาด 5,600 ตารางเมตร มอบประสบการณ์พิเศษในการชมภาพยนตร์เพลิดเพลินกับอาหารอร่อยและกาแฟ รวมถึงการเลือกซื้ออาหารอร่อย ๆ เพื่อเป็นที่ระลึกของคุณ มีถนนอาหารที่ไม่เป็นทางการบนชั้น B1 ซึ่งคุณสามารถเลือกอาหารว่างหรือทานอาหารมื้อหลักได้

มา ช็อปปิ้งย่านกินซ่า ก็ต้องมาที่นี่ครับ ร้านค้าของที่ระลึกเยอะโดยเฉพาะขนมและของกินเล่นแสนอร่อย

Address: Yurakucho, 2−−1 Chiyoda, Tokyo

Website: itocia-ginza

รถนำเที่ยวญี่ปุ่น

14.Yurakucho Loft

ช็อปปิ้งย่านกินซ่า ที่ Yurakucho Loft

ถ้าคุณต้องการไลฟ์สไตล์และสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วไปในตลาดค้าปลีกในกินซ่าคุณจำเป็นต้องมาดูที่ Yurakucho Loft นี่เป็นสถานที่เหมาะสำหรับการหาของที่ระลึกจากประเทศญี่ปุ่น ที่นี่มีผลิตภัณฑ์หลากหลายตั้งแต่เครื่องสำอางเครื่องครัว stationaries และสินค้าที่เป็นพวกตัวหนังสือติดทำจากวัสดุต่างๆ

Address: 3−8−3 Marunouchi, Chiyoda, Tokyo

Website: loft-yurakucho

15.Yurakucho Marui

ช็อปปิ้งย่านกินซ่า ที่ Yurakucho Marui

Yurakucho Marui ห้างชื่อคุ้นที่มีเกือบทกย่าน ถ้าคุณมา ช็อปปิ้งย่านกินซ่า ก็ต้องเห็นอย่างเด่นชัด เพราะเป็นห้างสรรพสินค้าที่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าหลัก เพียงเดิน 2 นาทีจาก Central Exit ของสถานี JR Yurakucho ซึ่งคุณจะได้พบกับแบรนด์ชั้นนำมากมายและสินค้าที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม

Yurakucho Marui ส่วนใหญ่มีร้านค้าสำหรับเด็กรุ่นอายุประมาณ 20 ปี นอกจากนี้ยังมีร้านหนังสือ STARBUCKS และร้านกาแฟ ซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินกับการเลือกหนังสือที่มีถ้วย STARBUCKS ที่คุณโปรดปราน นั่งจิบกาแฟไป อ่านหนังสือไป มันเป็นไลพ์สไตร์ที่นิยมของคนญี่ปุ่นมากครับ การอ่านหนังสือ ถ้าคุณขึ้นรถไฟจะเห็นเด็กวัยรุ่นยืนอ่านหนัง ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง จดจ่อแต่หน้าหนังสือ

เดินเล่นเพลินๆ ดูโน่น นี่นั่น ก็ไม่เลวครับ

Address: 2-7-1, Yurakucho, Chiyoda-ku, Tokyo

Website: marui-yurakucho

21 ร้าน ช็อปปิ้งย่านชินจูกุ มาเดินทั้งที พลาดได้ไง ที่ไหน ไปดู!!!

ช็อปปิ้งย่านชินจูกุ

มีกล่าวว่าโตเกียวเป็นเมืองที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก อันที่จริงแล้วคุณแทบจะไม่เห็นใครที่เดินไปรอบ ๆ ชิบูย่าหรือ ช็อปปิ้งย่านชินจูกุ แล้วแต่งตัวเอาท์ๆดูแล้วแทบจะสามารถเอาขึ้นปกนิตยสารแฟชั่นได้ทุกคนเลยทีเดียวเชียว หลายคนเหล่านี้ซื้อเสื้อผ้าในร้านค้าหลายแห่งในชินจูกุ

ในฐานะนักท่องเที่ยวและโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่รักการช็อปปิ้ง ห้างร้านในชินจูกุที่จะนำเสนอนี้เป็นจุดหมายปลายทางที่ดีที่สุด 21 จุดหมายปลายทางที่คุณควรพิจารณาเพื่อช็อปปิ้งที่ชินจูกุ

21 ห้างสรรพสินค้าแบบดั้งเดิมให้คุณ ช็อปปิ้งย่านชินจูกุ แบบไม่เหนื่อยและได้ของตรงตามความต้องการ

1. Isetan

2. Takashimaya

3. Odakyu

4. Keio Hyakkaten

5. LUMINE1, LUMINE2 & LUMINE EST

6. Shinjuku Mylord

7. Shinjuku Marui Honkan

8. Shinjuku Marui Annex

9. Flags

10. NEWoMan

11. Shinjuku Marui Men

12. Isetan Men’s

13. Yodobashi Camera Shinjuku

14. BIC CAMERA Shinjuku West Exit

15. Tokyu Hands

16. MUJI Shinjuku

17. BICQLO Shinjuku

18. FrancFranc

19. Donki shinjuku

20. Sanrio Shinjuku

21. Beams Shinjuku

1. Isetan

ช็อปปิ้งย่านชินจูกุที่ Isetan

ร้านนี้จัดเป็นพิพิธภัณฑ์แฟชั่นอย่างกล้าหาญ หากคุณเป็นแฟชั่นสาวที่กำลังมองหาแนวโน้มล่าสุดให้ลองดู Isetan เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการ ช็อปปิ้งย่านชินจูกุ ของคุณ ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้มี 7 ชั้นเต็มไปด้วยร้านค้าที่มุ่งเน้นไปที่หญิงสาว ที่นี่คุณสามารถหาแบรนด์เครื่องประดับญี่ปุ่นเสื้อผ้าและเครื่องสำอางค์และอื่น ๆ อีกมากมาย

Address: 3 Chome-14-1 Shinjuku, Tokyo

Website: isetan

2. Takashimaya

ช็อปปิ้งย่านชินจูกุ ที่ Takashimaya

Takashimaya เป็นหนึ่งในห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในสถานที่ที่จัดให้มีการช็อปปิ้งปลอดภาษีสำหรับนักท่องเที่ยวที่มา ช็อปปิ้งย่านชินจูกุ รับรองคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์แน่นอน^^

Takashiyama มีหลายสาขาทั่วประเทศญี่ปุ่น แต่ที่เมืองชินจูกุถือว่าเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและญี่ปุ่นก็เป็นมิตรกับคนต่างชาติและปลอดภัยเป็นอันดับต้นๆของโลกเลยหล่ะ

Address: 5 Chome-24-2 Sendagaya, Shibuya, Tokyo

Website: Takashimaya

วางโปรแรมเที่ยวกับมืออาชีพ

3. Odakyu

ช็อปปิ้งย่านชินจูกุ ที่ Odakyu

ห้างสรรพสินค้า Odakyu เป็นอีกหนึ่งข้อเสนอแนะสำหรับการ ช็อปปิ้งย่านชินจูกุที่นี่คุณจะได้พบกับผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบจากร้านขายของที่ระลึกจากญี่ปุ่นจนถึงแบรนด์แฟชั่นระดับไฮเอนด์

Odakyu ตั้งอยู่ติดกับทางออก West ของสถานี JR Shinjuku ที่อยู่: 1 Chome-1-3 Nishishinjuku, Shinjuku, Tokyo เวลาเปิดทำการ: ทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 . ถึง 20.00 . * เวลาอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับพื้นเล็กน้อย

Website: odakyu-dept

4. Keio Hyakkaten

ช็อปปิ้งย่านชินจูกุ ที่ Keio Hyakkaten

Keio เป็นอีกหนึ่งห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่มีชื่อของญี่ปุ่น รถประจำทางไปและกลับจากสนามบินนาริตะมาจอดที่หน้าห้างเลยครับ ไม่ต้องกลัวจะไม่ทันรถไปสนามบินครับ ง่ายและสะดวกใช่ไหมครับ สำหรับการ ช็อปปิ้งย่านชินจูกุโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการซื้อของฝากแบบมีให้เลือกมากๆ

Address: 1 Chome-1-4 Nishishinjuku Shinjuku-ku, Tokyo

Website: keionet  

ร้านค้าที่มีแบรนด์สำหรับคนรุ่นใหม่ในชินจูกุ

5. LUMINE1 LUMINE2 และ LUMINE EST

ช็อปปิ้งย่านชินจูกุ ที่ Lumine

อาคาร LUMINE เป็นเจ้าภาพแบรนด์เสื้อผ้าญี่ปุ่นจำนวนมากที่เป็นที่นิยมในกลุ่มคนหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่น หากคุณกำลังมองหาราคาที่เหมาะสมและมีคุณภาพที่ดีแต่ไม่จำเป็นต้องมีชื่อแบรนด์ใหญ่ LUMINE เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการ ช็อปปิ้งย่านชินจูกุ นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับการช้อปปิ้งในวันที่ฝนตกเนื่องจากสาขาทั้งหมดเชื่อมต่อโดยตรงจากสถานีรถไฟชินจูกุ (JR Shinjuku Station)

LUMINE 1

Address: 1 Chome-1-5 Nishishinjuku Shinjuku-ku, Tokyo

LUMINE 2

Address: 3 Chome-38-2 Shinjuku Shinjuku-ku, Tokyo
Website: lumine.shinjuku 

LUMINE EST

Address: 3 Chome-38-1 Shinjuku Shinjuku-ku, Tokyo
Website: lumine.est

6. Shinjuku Mylord

ช็อปปิ้งย่านชินจูกุ ที่ Shinjuku Mylord

ถ้าคุณเข้าสู่ห้างนี้ จะได้พบกับแฟชั่นญี่ปุ่นและบรรยากาศแนวเหมือนในเทพนิยาย ก็เป็นอะไรที่แปลกไปอีกแบบนะครับ สำหรับการ ช็อปปิ้งย่านชินจูกุ ย่านนี้

Shinjuku Mylord คือร้านค้าสำหรับคุณ ที่นี่คุณสามารถหาแบรนด์ Lolitas, Gyaru หรือ kawaii ที่มีอยู่ทั่วไปในญี่ปุ่นได้ไม่ยาก แต่ไม่มีนอกญี่ปุ่นนะครับ

Address: 1 Chome-1-3 Nishishinjuku Shinjuku-ku, Tokyo

Website: shinjuku-mylord

7. Shinjuku Marui Honkan

ช็อปปิ้งย่านชินจูกุ ที่ Marui Honkan

ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้อยู่ห่างจากทางออกด้านตะวันออกของสถานี Shinjuku เพียงไม่กี่นาที ส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่หญิงสาวในยุค 20 และยุค 30 โดยมีเสื้อผ้าเครื่องสำอางรองเท้ากระเป๋าและแบรนด์ชุดชั้นในหลากหลายประเภท

Address: 3 Chome-30-13 Shinjuku, Shinjuku-ku

Website: 0101-stores

8. Shinjuku Marui Annex

ช็อปปิ้งย่านชินจูกุ ที่ Marui Annex

กลุ่มเป้าหมายหลักของห้างนี้คือ กลุ่มหญิงสาว อย่างไรก็ตามแบรนด์ที่นี่มีลักษณะแปลก ๆ และส่วนใหญ่เป็นแบบใต้ดินซึ่งหมายถึงแฟชั่น Gothic และ Lolita มากกว่า คุ้มค่าพอดูครับถ้ามา ช็อปปิ้งย่านชินจูกุ ให้มาลองเดินเล่นที่ห้างนี้ดูครับ ถ้าคุณเป็นคนกลุ่มเป้าหมายของ Marui มาเลยครับไม่ผิดหวัง!

Address: 3 Chome-1-26 Shinjuku Shinjuku-ku, Tokyo
Website: 0101.annex

9. Flags

ช็อปปิ้งย่านชินจูกุ ที่ Flags

ห้างสรรพสินค้าที่มากกว่าห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม “Flags” มุ่งเน้นคนหนุ่มสาวโดยทั่วไป แบรนด์ที่คุณจะพบได้มีลักษณะเป็นแบบตะวันตก

ช็อปปิ้งย่านชินจูกุ เข้าสู่สไตล์ที่ดูเก๋ไก๋แนวสตรีทๆ มาห้างนี้เลยครับ

Address: 3 Chome-37-1 Shinjuku Shinjuku-ku, Tokyo

Website: flags

Men’s clothing shopping in Shinjuku

10. NEWoMan

ช็อปปิ้งย่านชินจูกุ ที่ NEWoMan

เป็นชื่อแนะนำร้านนี้มุ่งเน้นไปที่ความทันสมัย, นักช็อปผู้หญิงวัยทำงานถึงกลางคนที่กำลังมองหาแนวการแต่งตัวใหม่ มา ช็อปปิ้งย่านชินจูกุ ที่ NEWoManis ถือว่าเป็นแหล่งช็อปปิ้งที่ดีที่สุดในย่านนี้เลยหล่ะ วัยนี้ก็เหมาะอย่างยิ่งกับสไตร์หรูและเหมาะสำหรับคนที่กำลังหาแบรนด์ระดับไฮเอนด์

Address: 4-1-6 Shinjuku, Shinjuku, Tokyo

Website: newoman

11. Shinjuku Marui Men

ช็อปปิ้งย่านชินจูกุ ที่ Marui Men

ร้าน Shinjuku Marui มีอาคารแยกต่างหากสำหรับเสื้อผ้าบุรุษและอุปกรณ์เสริม แน่นอนว่าคุ้มค่ากับการมาเดิน ช็อปปิ้งย่านชินจูกุ ถ้าคุณจะหาแฟชั่นราคาประหยัดและทันสมัย มาห้างนี้ครับ ตรงใจ!!

Address: 5 Chome-16-4 Shinjuku Shinjuku-ku, Tokyo

Website: 0101.men  

บริการรถนำเที่ยวญี่ปุ่น

12. Isetan Men’s

Isetan Men’s Shinjuku

ประสบการณ์ที่ได้รับการขัดเกลามากยิ่งขึ้น Isetan Men มีร้านค้าเสื้อและเน็คไทมากมายทั้งแบรนด์ต่างประเทศและแบรนด์ของญี่ปุ่นเองทั้งชั้นเต็มไปด้วยร้านเสื้อผ้ารองเท้าและกระเป๋าของผู้ชายล้วนๆครับ

Address: 3 Chome-14-1 Shinjuku, Tokyo

Website: isetan.men

Electronics stores in Shinjuku

13. Yodobashi Camera Shinjuku Nishiguchi Honten

ช็อปปิ้งย่านชินจูกุ

ลองนึกภาพห้างสรรพสินค้า ที่มีแต่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด ในไทยก็พวกเซียรังสิต พันทิปประตูน้ำ มาบุญคลองชั้น 2-4 แต่ในญี่ปุ่นมา ช็อปปิ้งย่านชินจูกุ มาที่ Yodobashi Camera Shinjuku Nishiguchi Honten โดยทั่วไปคือ คุณจะสามารถหาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ประเภทใดก็ได้ที่นี่เลยครับ

ดังนั้นถ้าคุณเป็นคนที่ชื่นชอบในเทคโนโลยี และชอบการช็อปปิ้งใน Shinjuku ให้ลองมาสถานที่แห่งนี้!

Address: 1-11-1 Nishishinjuku, Shinjuku, Tokyo

Website: yodobashi

14. BIC CAMERA Shinjuku West Exit

ช็อปปิ้งย่านชินจูกุ ที่ Bic Camera

เป็นชื่อของร้านค้านี้แนะนำส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์กล้องและทุกประเภทของอุปกรณ์การถ่ายภาพ อย่างไรก็ตามยังเป็นเจ้าภาพมาร์ทโฟน, พีซี, ทีวี, เครื่องเสียงและแบรนด์เครื่องใช้ในครัวเรือน

Address: Shinjuku Nishiguchi HALC 2F-7F

1-5-1, Nishishinjuku, Shinjuku, Tokyo

Website: biccamera.shin.west  

Other goods and souvenir stores in Shinjuku

15. Tokyu Hands

ช็อปปิ้งย่านชินจูกุ ที่ Tokyu Hands

ร้านเบ็ดเตล็ดชนิดนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น ลองนึกภาพ IKEA รวมกับร้านขายยาร้านเครื่องเขียน เครื่องสำอางและร้านขายของที่ระลึกแบบดั้งเดิม นี่คือ Tokyu Hands ถ้าคุณไม่มีเวลามากพอที่จะช็อปปิ้ง แต่คุณต้องการของหลายรายการต่างๆกัน นี่เป็นจุดที่ต้องมา ช็อปปิ้งย่านชินจูกุ แห่งนี้ครับ

Address: Inside Takashimaya Department Store

5 Chome-24-2 Sendagaya Shibuya-ku, Tokyo

Website: shinjuku.tokyu-hands

16. MUJI Shinjuku

ช็อปปิ้งย่านชินจูกุ ที่ MUJI Shinjuku

เหมือนร้าน Tokyu Hands สำหรับร้าน MUJI ซึ่งเป็นร้านค้าที่ขายของทุกอย่าง MUJI ได้กลายเป็นที่รู้จักทั่วโลกสำหรับการออกแบบที่เรียบง่ายในทุกสิ่ง ร้านนี้ในชินจูกุเป็นร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียวของ MUJI เลยทีเดียวครับ

Address: 3-15-15 Shinjuku, Tokyo

Website: muji.shinjuku

17. BICQLO Shinjuku

ช็อปปิ้งย่านชินจูกุ ที่ BICQLO Shinjuku

BICQLO เป็นแนวคิดร่วมกัน เป็นร้านค้า 6 ชั้นที่รวม UNIQLO และ BIC CAMERA ซึ่งหมายถึงการรวมแฟชั่นและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เข้ามาอยู่ที่เดียวกัน ผู้หญิงช็อปเสื้อผ้า ส่วนผู้ชายก็ Bic Camera ตามสูตร ที่นี่ขายเกือบทุกอย่าง ตั้งแต่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จนถึงผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ

มา ช็อปปิ้งย่านชินจูกุ มาBICQLO Shinjuku ไม่ผิดหวังแน่นวล^^

 Address: 3 Chome-29-1 Shinjuku, Tokyo

Website: biccamera.shin

18. FrancFranc

ช็อปปิ้งย่านชินจูกุ ที่ FrancFranc

FrancFranc เชี่ยวชาญด้านเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน มันอาจจะไม่ใช่ความคิดที่ดีที่สุดสำหรับการ ช็อปปิ้งย่านชินจูกุเนื่องจากคุณอาจจะไม่นำที่นอนมาเป็นที่ระลึกในบ้าน

อย่างไรก็ตามคุณอาจต้องมาลอง เนื่องจากอุปกรณ์และของเล่นต่างๆที่นี่เค้าจัดหนักจัดเต็ม มาแล้วคุ้มค่าจริงๆ ขอบอก!!

Address: Shinjuku Southern Terrace 2-2-1, Yoyogi, Shibuya, Tokyo

Website: francfranc.shinjuku

19. Don Quijote

ช็อปปิ้งย่านชินจูกุ ที่ Donki Shinjuku

หากคุณเป็นคนที่ชอบช้อปปิ้งและวางแผนเดินทางไปญี่ปุ่น คุณอาจเคยได้ยิน Don Quijote หรือ Donki สาขาในชินจูกุนี้เป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุด และมีความหลากหลายมากที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียว

ไม่ต้องคิดมากครับ คิดจะเดิน Donki มาช็อป Don Quijote Shinjukuใหญ่ ครบ ดี!!

Address: 1-12-6 Okubo, Shinjuku, Tokyo

Website: donki.shinjuku

เที่ยวทั่วไทยไปไกลทั่วโลก

20. Sanrio Gift Gate

ช็อปปิ้งย่านชินจูกุ ที่ Sanrio Gift Gate

นี่เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์เล็กๆ สำหรับสาวกคิดตี้ ประวัติศาสตร์ยังไง เนื่องจากเป็นประตูทางเข้าของที่นี่ ที่ชื่อว่า “Sanrio Gift Gate” คือประตูแห่งแรกที่เปิดขึ้นและรูปปั้น Hello Kitty ที่ใหญ่ที่สุดรอต้อนรับทุกท่านบริเวณทางเข้าร้าน นี่คือร้านค้าที่ดีที่สุดสำหรับสินค้า kawaii และสินค้าพวกตัวละครในการ์ตูนต่างๆของญี่ปุ่นและในชินจูกุ

Address:
3-15-11 Shinjuku, Shinjuku-ku, Tokyo
1st Floor, Korakuenadhoc Building
Website: sanrio.shinjuku

21 BEAMS

ช็อปปิ้งย่านชินจูกุ ที่ BEAMS

ห้างขนาดเล็กอีกที่ ที่พยายามฉีกตัวเองให้แตกแต่างจากห้างขนาดใหญ่ สินค้าแปลกๆ เช่น วิทยุทราซิสเตอร์ สินค้าหัถกรรมของญี่ปุ่น เครื่องชามบ้านเซรามิค ถ้วยชา และสินค้าที่เน้นเป็นของขวัญปลายปี หรือของจับฉลากปลายปี มีสินค้าสำหรับคนรุ่นใหม่เยอะแยะ มาลองเลือกดูกันได้ครับ

Address: Chome-3-32-6, Shinjuku-ku Shinjuku, Shinjuku-ku, Tokyo

Website : beams.shinjuku

ช็อปปิ้งย่านฮาราจูกุ กับ 10 ร้านแฟชั่นปังปัง อยากปั๊วะ ปัง เวอร์วังอลังการ ต้องมา!!

ช็อปปิ้งย่านฮาราจูกุ

ฮาราจูกุย่านที่มีชื่อที่สุดในด้าน Accessories ของโตเกียว จะหาดูเทรนด์ หาพ็อปที่กำลังมาแรงของวัยรุ่นปัจจุบัน มาเดิน ช็อปปิ้งย่านฮาราจูกุ นี้ไม่ผิดหวังแน่นวลครับ ที่นี่คุณจะพบร้านค้าบูติก ร้านกาแฟและร้านอาหารมากมายที่เหมาะกับการแฮงเอ้าท์ ช็อปปิ้ง การรับประทานอาหารและความต้องการอื่น ๆ ของคุณ

คุณจะไม่มีวันหมดสิ่งที่ต้องซื้อในฮาราจูกุ ส่วนใหญ่แล้วเงินในกระเป๋าสตางค์ของคุณจะหมดไปก่อน แฮะๆ เพราะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่จะดึงดูดความสนใจของคุณ ขอแนะนำให้คุณวางแผนในใจก่อนเดินเข้าไป ช็อปปิ้งย่านอาราจูกุ นี้นะครับ 

เหตุผล? คุณมักจะลืมสิ่งต่างๆที่จต้องการจริงๆไป เพราะกิเลสในตัวคุณจะถูกกระตุ้นโดยสิ่งอื่นมากมายเมื่อคุณเดินไปตามถนน ย่านนี้ครับ

หากเลือกไม่ถูกเรามีไกด์ไลน์ สถานที่ ช็อปปิ้งย่านฮาราจูกุ ย่านนี้ และนี่คือ 10 ร้านช็อปเพื่อ Shopping Lover เช่นคุณ ค้นหาสิ่งที่ดีและเหมาะกับคุณที่สุดในเมืองโตเกียว มหานครที่ไม่มีวันหลับไหลแห่งนี้กันครับ

Takeshita Street

ช็อปปิ้งย่านฮาราจูกุ @ Takeshita Street

ถนน Takeshita เป็นถนนที่มีถนนคนเดินเฉพาะที่เรียงรายไปด้วยร้านค้าร้านอาหารร้านบูติกและร้านค้าที่โปรโมตแบรนด์ของตัวเอง นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดที่จะไป ถ้าคุณกำลังมองหารายการแฟชั่นราคาถูก ที่นี่เป็นคำตอบแรกเลยครับ เดิน ช็อปปิ้งย่านฮาราจูกุ มาย่านถนนทาเคชิตะ

1. DAISO

ช็อปปิ้งย่านฮาราจูกุ - Daiso

Daiso เป็นหนึ่งในบรรดาร้านค้า 100 เยนที่มีชื่อเสียงซึ่งสามารถพบได้ทั่วประเทศญี่ปุ่น นี่เป็นสถานที่ที่เยี่ยมยอดหากคุณวางแผนที่จะซื้อสินค้าจำนวนมากๆ กับรายการมากมายเพื่อเลือกจากราคาต่ำเกือบเป็นไปไม่ได้ว่าจะมีบนโลกใบนี้ และยากใช่ไหมหล่ะที่จะหาสิ่งที่จะจับคู่พ็อพของคุณ Daiso ในย่าน Takeshita Street เป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นเลยครับ

Address: 1-19-24 Jingumae, Shibuya-ku Tokyo

Website: https://www.daiso-sangyo.co.jp/shop/detail/7157 (Japanese Only)

วางโปรแรมเที่ยวกับมืออาชีพ

2. Cute Cube Harajuku

ช็อปปิ้งย่านฮาราจูกุ - Cute Cube Harajuku

พ๊อพน่ารักๆ ที่สามารถหา ช็อปปิ้งย่านฮาราจูกุ ได้เยอะแยะ แต่ที่ Cute Cube Harajuku นี้จัดได้ว่าเป็นต้นกำเนิด หรือแหล่งอารยธรรมคาวายอี้ (kawaii) กันเลยทีเดียวร้านนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับวัยรุ่นและคุณส่วนใหญ่จะพบพวกเขาที่สถานที่เหล่านี้

Cute Cube เป็นร้านที่มีร้านค้าและภัตตาคาร 10 แห่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ซึ่งรวมถึงสาขาของแบรนด์ “H & M Monki” การมาร้านนี้คุ้มค่ามากขอบอกไม่เสียเวลาเดินแน่นอนจ้า

นอกจากนี้ยังมีร้านค้าที่เป็นธีมพิเศษที่เด็ก ๆ จะชอบเช่น Sanrio Store และ Pompompurin cafe ก็มีในตึกนี้นะจ๊ะ^^

Address: 1-7-1 Jingumae, Shibuya-ku, Tokyo

Website: http://cutecubeharajuku.com/en.html

Laforet Harajuku

Laforet Harajuku

Laforet เป็นหนึ่งในห้างดังของฮาราจูกุ นอกจากเป็นห้างสรรพสินค้าให้ท่าน ช็อปปิ้งย่านฮาราจูกุ แล้วยังมีพิพิธภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้เดินชมเดินชิวกันอีก และ Laforet แห่งยังเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับการลดราคา (Bargain) โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อนและปลายเดือนมกราคมของทุกปี เก็บข้อมูลกันไว้น้า

ขอบอกอีกอย่างว่า เสื้อผ้าและสินค้าตามฤดูกาลที่เอามาขายแล้วจะ ลดราคากันแบบ 70-80% เหมือนมีนโยบายไม่มีการเก็บกลับเข้าสต็อคกันเลยหล่ะครับ ยิ่งวันท้ายๆ เตรียมไปเหมากันได้เลยจ้า

3. Lolita Fashion Shops

Lolita Fashion Shops @ Harajuku

ใช่แล้วครับ แฟชั่นโลลิต้ายังไม่ตาย ยังมีชีวิตอยู่ อิอิ และกำลังเป็นที่นิยมสำหรับการ ช็อปปิ้งย่านฮาราจูกุ สำหรับผู้ที่สนใจใส่ชุดโกธิคาวโลลิต้า สามารถไปที่ชั้น B1.5 ของห้าง Laforet Harajuku ไม่ว่าคุณจะชอบอะไรแนวดาร์คหรือแนวที่ดูเรียบๆ หาได้ที่ร้านนี้ครับ

4. ช็อปปิ้งย่านฮาราจูกุ ที่ Teen Fashion Brands

ช็อปปิ้งย่านฮาราจูกุ

วัยรุ่นญี่ปุ่นนั้น เค้าไล่ตามแฟชั่นกันเป็นล่ำเป็นสันนะครับ เรียกว่าใส่ใจแฟชั่นตลอดเวลาที่ว่างเลยหล่ะ^^ พวกเค้าขะชอบแต่งตัวและใส่เสื้อผ้าใหม่ๆล่าสุดที่เป็นที่นิยมตามเทรนด์ในนิตยสารแฟชั่นที่มีขายกันที่ร้านสะดวกซื้อทั่วไป

ร้านค้าที่มีชื่อแบรนด์ดังแทบทุกแบรนด์สามารถพบได้ในชั้น 4.5 และชั้น 5 ของ Laforet เพราะฉะนั้นต้องมา Laforet กันเลยจ้า

Address: 1-11-6 Jungumae, Shibuya-Ku, Tokyo

Website: http://www.laforet.ne.jp/en/

Bus More Than 32 Seats

Tokyu Plaza Omotesando Harajuku

ช็อปปิ้งย่านฮาราจูกุ - Tokyu Plaza Omotesando Harajuku

Tokyu Plaza เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับทางเข้ากระจกที่น่าประทับใจ ไม่ต้องสงสัยว่ามันจะต้องถูกออกแบบมาเพื่อให้ความประทับใจสำหรับคนที่ผ่านมันและเพื่อดึงคนเข้าห้างนั่นเอง มา ช็อปปิ้งย่านฮาราจูกุ อย่าลืมแวะมาถ่ายรูปที่นี่นะครับ

เมื่อพาคนเข้าห้างสำเร็จแล้ว ห้างยังมีจุดดึงคนให้เดินภายในห้างจนถึงชั้นบนสุดของห้างเลยครับ เพราะคุณจะได้วิวหลักล้านในเมืองโตเกียวกันเลยหล่ะ

ไม่ช็อปไปถ่ายรูปก็ยังดีนะครับผม

Address: 4-30-3 Jingumae, Shibuya-ku, Tokyo

Website: http://omohara.tokyu-plaza.com/en/

5. SIWA Collection

ช็อปปิ้งย่านฮาราจูกุ @ SIWA

เรามาแนะนำร้านในห้างกันต่อดีกว่า กระเป๋าแฟชั่นและอื่น ๆ ของ SIWA Collection สามารถพบใน Tokyo Plaza Omotesando ใน Harajuku แห่งนี้

คุณจะได้ Collection ที่เป็น Collection นะ แต่ไม่มีการซ้ำกันของลายบนกระเป๋าหรือสินค้าใน Collection เดียวกัน และอุปกรณ์เสริมที่ทำจากกระดาษ ซึ่งเป็นผลงานของนักออกแบบในประเทศและต่างประเทศทั่วโลก เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่สวยงาม มีเอกลักษณ์ของคนที่ออกแบบและความทันสมัยมากขึ้น

เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเสพดีไซด์ไปพร้อมกับฟังชั่นการใช้งานที่ถูกออกแบบมาให้ลงตัวเป็นอย่างดีกับผลิตภัณฑ์

Website: http://siwa-collection.jp/help/about (Japanese Only)

6. Kimono by Nadeshiko

Kimono by Nadeshiko

Kimono Nadeshiko เป็นร้านกิโมโนสำหรับผู้เริ่มต้น คอลเลกชันของพวกเค้ามุ่งเน้นและทุ่มเทสำหรับคนรุ่นใหม่เป็นหลัก “Nadeshiko” ยังพยายามอย่างดีที่สุดในการนำเสนอการออกแบบที่ทันสมัยและเสนอสไตล์กิโมโนแบบใหม่ๆ ให้กับคนรุ่นใหม่ของญี่ปุ่นให้สามารถใส่กิโมโนได้ในทุกๆวันครับ

Website: http://www.kimonobynadeshiko.com/ (Japanese Only)

Cat Street

ช็อปปิ้งย่านฮาราจูกุ - Cat Street

หากคุณมา ช็อปปิ้งย่านฮาราจูกุ และกำลังมองหาอะไรที่น่าสนใจและไม่เหมือนใคร หรือแปลกจากร้านอื่นๆ ให้คุณไปที่ Cat Street อาจเป็นแนวคิดที่ดี ที่นี่คุณจะพบร้านค้าที่ไม่สามารถพบเห็นได้ที่ใดใน Harajuku

7. G2? (G2 Question)

G2? Harajuku

G2? (G2 Question) แค่ชื่อร้านก็กินขาดแล้วครับ เป็นร้านค้าที่จำหน่ายเสื้อผ้ากระเป๋า รองเท้า อุปกรณ์เสริมและแม้แต่ของเล่น คุณยังสามารถหาเหล้าองุ่นที่มาจากอเมริกาและยุโรปได้ที่นี่ด้วยครับ ลองไปเดินดูได้ครับ

Website: http://www.g2q.jp

Ura Harajuku

อุระฮาราจูกุเป็นหนึ่งในศูนย์กลางของฮาราจูกุ เต็มไปด้วยร้านค้าอิสระขนาดเล็กและคาเฟ่ไม่กี่แห่งสำหรับผู้ที่ไม่ชอบสถานที่แออัด คิดว่าจะมานั่งพักเหนื่อย เติมพลังกันครับสำหรับย่านนี้ แต่……

8. 6% DOKI DOKI

ช็อปปิ้งย่านฮาราจูกุ - 6% DOKI DOKI

เมื่อคุณเดินเล่นและ ช็อปปิ้งหลักก่อนหน้าที่กล่าวมาเสร็จแล้ว อาจมาพักเหนื่อย นั่งชิวย่านอุระแห่งนี้ แต่คุณก็จะได้เจอกับร้าน 6% DOKI DOKI ร้านของสาวกคาวายอี้ kawaii สไตร์แบบสุดโต่งที่มุ่งมั่นสร้างสรรงานที่ “Impact” เอามากๆ ด้วยการออกแบบที่มีสีสันและศิลปะที่สามารถทำให้การเต้นของหัวใจของคุณถี่ขึ้น รัวๆได้

ขอปรบมือแบบรัวๆ ให้ร้านนี้เลยจ้า อีกร้านที่แอดบอกว่า ไม่ไปแล้วไม่ถึงฮาราจูกุเลยทีเดียวครับ^^

Address: 4 Chome-28-16 Jingumae Shibuya-ku, Tokyo

Website: http://www.dokidoki6.com (Japanese Only)

Meiji Street

ช็อปปิ้งย่านฮาราจูกุ - Meiji Street

ถนน Meiji ที่ตัดเรียบผ่านข้างๆ ศาลเจ้าที่ใหญ่ที่สุดในดตเกียวที่คนไทยรู้จักดีคือ ศาลเจ้าเมจินั่นเองครับ เป็นหนึ่งในถนนที่หากคุณกำลังมองหาแนว Street Fashion ของกรุงโตเกียวต้องมาที่ถนนแห่งนี้ครับ แฟชั่นทางเลือก แฟชั่นสายหลักมีให้เห็นที่นี่ ถนนสายนี้เชื่อมระหว่าง Harajuku และ Shibuya

9. SPINNS

ช็อปปิ้งวินเทจย่านฮาราจูกุ


SPINNS
เป็นร้านบูติกที่ผสมผสานกับแฟชั่นแนววินเทจ เพลงและศิลปะ SPINNS เป็นร้านค้าที่ทันสมัยที่ต้องการสร้างสไตล์และแนวความคิดของตัวเองซึ่งเหมาะสำหรับหนุ่มสาวและวัยหนุ่มสาววัยทำงานที่มีใจรักในแนววินเทจเป็นหลักนี่คือร้านค้าที่มีจินตนาการและศิลปะร้านนึงเลยครับ

เขียนเชียร์สุดฤิทธิ์เพราะแอดชอบ อิอิ

Address: 6 Chome-5-3 Jingumae Shibuya-ku, Tokyo

Website: http://www.spinns.com (Japanese Only)

ช็อปปิ้งย่านฮาราจูกุ Omotesando Street

ช็อปปิ้งย่านฮาราจูกุที่ Omotesando Street

เดินจากหน้าสถานีรถไฟฟ้าฮาราจุกุ ข้ามถนนมาตรงอย่างเดียวท่านก็จะพบกับถนน Omotesando คือถนนที่ทอดยาวจากศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine), Aoyama-dori และ Omotesando Station ถนนที่ได้ชื่อว่าเป็นถนนชองเอริเซ่ร์ของกรุงโตเกียว สาวกแบรนด์ยอดนิยมจากทั่วโลก รับรองมาเดินที่นี่ไม่ผิดหวังแน่ครับ

ร้านค้าแบรนด์เนมยอดนิยมตั้งอยู่ทั้ง 2 ฝั่งของถนนสายนี้ ซึ่งเป็นที่ที่เหมาะสำหรับการช็อปปิ้งและรับประทานอาหารเป็นอย่างยิ่ง (Reccommended)

10. ช็อปปิ้งย่านฮาราจูกุ ที่ Omotesando Hills

Omotesando Hills

Omotesando Hills เป็นที่อยู่อาศัยและแหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่ที่มีสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ศูนย์การค้าแห่งนี้จะนำเสนอรสชาติใหม่ที่น่าสนใจสำหรับชาวกรุง

ห้างสรรพสินค้ามีร้านค้าที่น่าสนใจมากมายที่คุณจะได้พบกับแฟชั่นใหม่ล่าสุด หากคุณต้องการรับประทานอาหารมีร้านอาหารมากมายในพื้นที่เพื่อตอบสนองคุณอย่างจุใจเลยทีเดียวครับ

Website: http://www.omotesandohills.com/

ชอบบทความเราช่วยกดไลค์ กดแชร์ ได้ครับ ถ้าเห็นโฆษณาของเราแล้วเห็นว่ามีประโยชน์ต่อท่าน ช่วยกดที่ “This As is useful” ให้ด้วยจ้า^^

รถนำเที่ยวญี่ปุ่น

 

 

 

17 ห้างดังย่านชิบูย่า ย่านแฟชั่นที่คนเดินวันละเฉียดล้านและสื่อญี่ปุ่นแนะนำให้เป็น A Must!!!

17 ห้างดังย่านชิบูย่า

นอกจากจะเป็นสถานที่ที่รวมตัวของ ห้างดังย่านชิบูย่า มากมายแล้ว ย่านชิบูย่านี้ยังเป็นสถานที่ที่ใช้ส่งผ่านพลังงานบางอย่าง ที่เกิดจากคนที่มีบุคลิกที่แตกต่างกัน ความชอบ ความสนใจและวัฒนธรรมต่างกันแบบสุดขั้ว มายังคนที่มาเยือนย่านนี้ได้เป็นอย่างดี ย่านชิบูย่านี้เต็มไปด้วยสีสันและมีศักยภาพซึ่งสามารถรองรับผู้คนนับแสนทุกๆวัน

ที่นี่คุณจะพบกับผับคลับบาร์ร้านค้าอิเล็กทรอนิกส์และห้างสรรพสินค้ามากมายที่ทำให้ชิบุย่าดึงดูดใจคนรุ่นใหม่ (วัยรุ่นและคนในช่วงต้นปี 20)

คนญี่ปุ่นชอบร้านค้าในย่านนี้มากพอๆกับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะผู้หญิงที่ชื่นชอบซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นกระเป๋าเครื่องสำอางและอุปกรณ์เสริม มีห้างสรรพสินค้าที่รู้จักกันดีและถนนช้อปปิ้งมากมายที่กระจัดกระจายอยู่ภายในชิบูย่าและนี่คือบางส่วนของร้านค้าในย่านนี้!

1. Seibu Shibuya Department Store

17 ห้างดังย่านชิบูย่า - Seibu Shibuya

เซบู เป็นหนึ่งใน 17 ห้างดังย่านชิบูย่า และสถานที่สำคัญของชิบูย่า ห้างเซบูแยกออกเป็นสองส่วน (Annex A&B Buildings) ทั้งสองอาคารขายแบรนด์ที่มีชื่อเสียงของโลกจากผู้ผลิตชั้นนำในต่างประเทศและงานฝีมือพิเศษจากทุกภูมิภาคในญี่ปุ่น โดยตึก A จะขายสินค้าที่มีเฉพาะสำหรับผู้หญิงในขณะที่ตึก B สำหรับผู้ชาย

แยกตึกกันเลยทีเดียวครับ ใครอย่าหลงไปเดินผิดตึกทีเดียวเชียว อาจเด่นจนรู้สึกว่าเหมือนมีออร่าจับ คนมองบึม!!!

Website: http://www.sogo-seibu.jp

2. Tokyu Department Store

17 ห้างดังย่านชิบูย่า - Tokyu Shibuya

โตคิวเป็นอีกชื่อหนึ่งในในรายชื่อ ห้างดังย่านชิบูย่า ห้างนี้มีสองสาขา หนึ่งในนั้นสามารถเข้าโดยตรงจากสถานี Shibuya และอีกสาขาหนึ่งอยู่ไม่ไกลจากสาขาแรก ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือจากสถานี Shibuya ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้จำหน่ายเสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับนักออกแบบทั้งชายและหญิง มีทั้ง Accessories เครื่องสำอางและเครื่องใช้ภายในบ้านต่างๆ

Website: http://www.tokyu-dept.co.jp

Bus More Than 32 Seats

3. Shibuya 109

17 ห้างดังย่านชิบูย่า - Shibuya 109

Shibuya 109 เป็นห้างสรรพสินค้าที่มุ่งเน้นไปที่แฟชั่นญี่ปุ่นเทรนด์ล่าสุด ถ้าคุณใช้เวลาในการเดินดูสินค้าตามร้านค้าต่างๆภายในห้างสรรพสินค้าซึ่งจัดเป็น 1 ใน 17 ห้างดังย่านชิบูย่า แห่งนี้ คุณจะสังเกตได้ว่าลูกค้าส่วนใหญ่ที่นี่เป็นวัยรุ่นหรือชายและหญิงที่เกิดในช่วงปี 2000 ทั้งนั้น

นี่แสดงให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่ให้การตอบรับกับแฟชั่นมากและมักจะซื้ออะไรก็ตามที่เป็นตามเทรนด์ที่ฮิตในขณะนั้นหรือเรียกว่าไล่ตามแฟชั่นกันเลยทีเดียว

Website: http://www.shibuya109.jp/en/

4. PARCO

17 ห้างดังย่านชิบูย่า - PARCO Shibuya

PARCO เป็นหนึ่ง ห้างดังย่านชิบูย่า และอาจจะสถานที่ที่ดีที่สุดในการไปช็อปปิ้งที่ย่านชิบูย่านี้เลยเพราะ Parco ขายสินค้าที่เป็นของแท้และพิเศษที่ไม่มีอยู่ในร้านค้าอื่น ๆ เรียกได้ว่าหาอะไรที่พิเศษๆ มีเอกลักษณ์มาปาโก้ จบในห้างเดียวครับ

ในพื้นที่ ชั้น 6 เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางหลักสำหรับหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่มีหัวใจ ที่นี่คุณจะพบร้านขายของเล่นและร้าน “One Piece” ที่มีชื่อเสียงซึ่งมาจากมังงะและอะนิเมะยอดนิยมในญี่ปุ่น

*Parco ปิดปรับปรุง น่าจะเปิดอีกทีปี 2019 เลยครับ

Website: http://www.parco.co.jp/customer/shibuya_language/

5. Shibuya Hikarie

17 ห้างดังย่านชิบูย่า - Shibuya Hikarie

ตึก Hikarie มีทั้งหมด 34 ชั้นและมีวิวที่ของเมืองโตเกียวที่สวยห้างหนึ่ง ถ้ามองจากชั้นสูงๆของห้าง นอกเหนือจากการเป็นหนึ่งใน 17 ห้างดังย่านชิบูย่า แล้วห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ยังมีขนาดใหญ่และยังมีชั้นโรงละครพื้นที่จัดงานและส่วนสำนักงานอีกด้วย

ร้านอาหารและร้านอาหารต่างๆในพื้นที่เต็มไปด้วยผู้คนเกือบตลอดเวลาเพราะอยู่ใกล้กับสถานีและมักถูกใช้เป็นสถานที่ hangout ในชิบุย่าเนื่องจากวิวที่สวยและไม่ต้องเดินไกลจากสถานี

Website: http://www.hikarie.jp/

6. Shibuya MODI

17 ห้างดังย่านชิบูย่า - Shibuya MODI

ถ้าคุณรู้ประวัติความเป็นมาของชิบูย่าคุณจะรู้ได้ว่าสถานที่แห่งนี้ (Shibuya MODI) เป็นที่รู้จักในปัจจุบันคือใช้เป็นที่ตั้งของ Marui City ห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่นี้มี 10 ชั้นและเพียงแค่ตรวจสอบร้านค้าต่างๆภายในห้างสรรพสินค้าคุณก็สามารถบอกได้ว่ามีการปรับปรุงมากมายเมื่อเทียบกับอาคารเก่า

นอกจากนี้ยังมีแผงหน้าจอสัมผัสหลายภาษาที่สามารถช่วยชาวต่างชาติหาปลายทางภายในห้างสรรพสินค้าได้โดยง่าย แม้ห้างอาจจะดูเล็ก แต่ ถ้าติด 1 ใน 17 ห้างดังย่านชิบูย่า ได้ก็ไม่ธรรมดาแล้วหล่ะครับ บอกอย่างนี้แล้วน่าเดินไหมหล่ะ

Website: http://shibuya.m-modi.jp.e.wb.hp.transer.com

7. Shibuya MARK CITY

17 ห้างดังย่านชิบูย่า - Shibuya MARK CITY

Shibuya MARK CITY เป็นห้างสรรพสินค้าอเนกประสงค์ที่เชื่อมต่อโดยตรงกับสถานี Shibuya มีร้านค้ากว่า 70 แห่งซึ่งรวมถึงร้านอาหารร้านเสื้อผ้าเครื่องสำอางค์ เครื่องประดับและร้านค้าปลีกอื่น ๆ อีกมากมาย

เรียกได้ว่าเน้นเดินช็อปง่าย ของราคาถูก ตัดสินใจง่าย ลองไปดูนะครับ

Website: http://www.s-markcity.co.jp/foreign/

เที่ยวทั่วไทยไปไกลทั่วโลก

8. Center Gai

17 ห้างดังย่านชิบูย่า - Center Gai Shibuya

Shibuya Center Gai เป็นถนนที่แคบซึ่งผู้คนมักจะรวมตัวกัน เป็นย่านเล็กๆ ย่อยๆ ของย่านชิบูย่าซึ่งมีบรรยากาศของวัยรุ่นบนถนนสายนี้ และรวมทั้งยังมีร้านค้าที่น่าสนใจอีกมากมายที่ขายสินค้าต่างๆ เช่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องสำอางค์และอีกมากมาย!

Website: http://center-gai.jp/

9. Meiji Dori

17 ห้างดังย่านชิบูย่า - Meiji Dori Shibuya

Meiji Dori ยังสามารถเรียกได้ว่าเป็นถนนกลางที่เชื่อมต่อพื้นที่ต่างๆในโตเกียวเช่นชินจูกุชิบูย่าอีบุซฮาราจูกุอิเคบุคุโระและสถานที่สำคัญอื่นๆในเมืองโตเกียวด้วยเหตุผลอย่างนี้ก็กลายเป็นถนนช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงในย่านชิบูย่านี้

ย่านถนนนี้ นอกจากจะจัดเป็น ห้างดังย่านชิบูย่า แล้วยังเป็นสถานที่ที่มีความผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมที่แตกต่างกันของญี่ปุ่นและตะวันตกที่ชัดเจน ซึ่งสร้างความน่าสนใจอย่างหนึ่งสำหรับผู้คนที่ได้มาเยือนทุกเพศทุกวัย

Location: https://goo.gl/maps/NCESQynbhZ52

10. Shibuya Jinnan Area

17 ห้างดังย่านชิบูย่า - Shibuya Jinnan Area

ถ้าคุณชอบเดินรอบย่านช็อปปิ้ง หนึ่งในสถานที่ที่น่าจะเรียกว่าย่านช็อปปิ้งจะเหมาะกว่าห้างนะ สถานที่แห่งนี้สะดุดตายิ่งนัก เมื่อ Shibuya Jinnan พื้นที่ เช่นเดียวกับถนนอื่น ๆ ในย่านชิบุย่า

พื้นที่ของจินนันมีร้านค้าที่ไม่เหมือนใครหลายแห่งที่ให้ความสำคัญกับคนที่มีรสนิยมต่างกัน มีร้านบูติค ร้านกาแฟ สตูดิโอธุรกิจและสถานที่อื่นที่คล้ายคลึงกันมากมายให้ความสำคัญกับคนรุ่นใหม่ของกรุงโตเกียวเป็นอย่างดี

Location: https://goo.gl/maps/6XpNWDNYnvn

11. Aoyama Area

17 ห้างดังย่านชิบูย่า - Aoyama Area Shibuya

มีร้านค้าช้อปปิ้งระดับไฮเอนด์หลายแห่ง คาเฟ่ ร้านหนังสือและร้านค้าหัตถกรรมที่พบได้เฉพาะในโอยาม่าเท่านั้น คาเฟ่อันอบอุ่นสบายเหล่านี้เป็นสถานที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนหลังจากเสร็จสิ้นการช็อปปิ้งยิ่งนัก

ย่านในฝันของนักอ่านที่ชอบช็อปปิ้งเลยครับ

Location: https://goo.gl/maps/QxqjjbscQAN2

12. BIC Camera

17 ห้างดังย่านชิบูย่า - Big Camera Shibuya

BIC Camera ห้างที่คนไทยรู้จักกันดี เป็นร้านค้าอิเล็กทรอนิกส์ในย่านชิบูย่า มี 2 ตึก ประกอบด้วยอาคารหลักและอาคารเสริม คุณสามารถพบ Gadget ล่าสุดได้ที่นี่ครับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆเช่นคอมพิวเตอร์โทรศัพท์มือถือกล้องถ่ายรูปอุปกรณ์ถ่ายวิดีโอและอื่นๆอีกมากมายหาได้จากร้านอิเล็กทรอนิกส์ครบวงจรแห่งนี้

นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารและคาเฟ่หลายแห่งในห้างสรรพสินค้าสำหรับผู้ที่หิวโหยในระหว่างการช้อปปิ้งภายในห้างอีกต่างหาก

Website: http://www.biccamera.co.jp

13. LABI Shibuya

17 ห้างดังย่านชิบูย่า - Labi Shibuya

ก่อนที่คุณจะออกจากเมือง Electric of Shibuya แห่งนี้ คุณจะเจอ LABI Shibuya อาคารนี้ถือเป็นหนึ่งในร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดในชิบุย่าเลยทีเดียว

เป็นที่ตั้งของร้านค้ามากมาย สินค้าปลอดภาษีมีขายที่ชั้นสอง ซึ่งกำหนดเป้าหมายไปยังลูกค้าจากต่างชาติเป็นหลัก การได้รับยกเว้นภาษี นอกเหนือจากแกดเจ็ตล่าสุดแล้วยังมีร้านค้าจำหน่ายเครื่องใช้ภายในบ้าน ของที่ระลึก ของว่างและขนมญี่ปุ่นที่คนต่างชาตินิยมซื้อเป็นของฝากเล็กๆน้อยกันอีกด้วย!

Website: http://www.yamadalabi.com/shibuya/ 

14. Tokyu Hands

17 ห้างดังย่านชิบูย่า - Tokyu Hands Shibuya

Tokyu Hands เป็นห้างสรรพสินค้า “one stop” ที่น่าสนใจซึ่งครอบคลุมสินค้ามากมาย อุปกรณ์ของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ของใช้ในโรงเรียน อุปกรณ์เครื่องใช้เพื่อสุขภาพและความงาม รายการของตกแต่งบ้าน อุปกรณ์การเดินทาง กระเป๋าเดินทาง โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เสริม และอื่น ๆ อีกมากมาย

คุณสามารถพบได้ที่ร้านที่มีอยู่ในห้างแห่งนี้ แม้ว่าจะมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับห้างอื่น ๆ ในพื้นที่ แต่การบรรจุสินค้าพื้นฐานที่คล้ายๆกับ ร้านสะดวกซื้อเข้าไปก็ทำให้ห้างนี้น่ามาเดิน เวลาเบื่อคนเยอะและเบียดกันซื้อของยิ่งนัก

Website: http://www.tokyu-hands.co.jp/foreign.html

15. MUJI

17 ห้างดังย่านชิบูย่า - Muji Shibuya

Muji เข้ามาเปิดในไทยแล้ว ไม่จำเป็นต้องสาทะยาย เรื่องสินค้า แต่ในกรณีนี้ขอแนะนำในฐานะเป็นหนึ่งใน 17 ห้างดังย่านชิบูย่า ละกันนะครับ มูจิเป็นบริษัทค้าปลีกที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น ซึ่งจำหน่ายสินค้าทั่วไปสำหรับผู้บริโภค สิ่งที่ไม่เหมือนใครของ MUJI ก็คือพวกเขาไม่มีนโยบายเกี่ยวกับตราสินค้า / ไม่มีแบรนด์ในรายการของพวกเขา

ร้าน MUJI ที่มีอยู่ใน Shibuya มี 6 ชั้นและแบ่งออกเป็น LOFT Store, ศูนย์อาหาร (Cafe Meal and Muji) เสื้อผ้าสตรี ชุดลำลองเด็ก เสื้อผ้าเด็กและห้องเด็กเล่นสำหรับเด็ก

ลองเดินกันดูนะครับ 6 ชั้น เลยทีเดียว รับรองกินเวลาไม่น้อยเลยหล่ะ ^^

Website: http://www.muji.com/jp/shop/045231

16. LOFT

17 ห้างดังย่านชิบูย่า - LOFT Shibuya

LOFT เป็นร้านญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงซึ่งขายได้เกือบทุกอย่าง และเป็นห้างที่มีร้านค้าที่เน้นของใช้ในครัวเรือนและของใช้ประจำวัน ซึ่งรวมถึงเฟอร์นิเจอร์ เครื่องประดับเครื่องสำอาง เสื้อผ้าแฟชั่น กระเป๋ากระเป๋าสตางค์ เป็นต้น

สำหรับคนส่วนใหญ่ LOFT ยังเป็นร้านขายของที่ระลึกที่นิยม เนื่องจากมีสินค้าพิเศษที่เหมาะเป็นของที่ระลึกยิ่งนัก

ใครไม่อยากซื้อขนมเป็นของฝากเชิญห้างนี้เลยจ้า

Website: http://www.loft.co.jp/shop_list/detail.php?shop_id=189

17. Franc Franc

17 ห้างดังย่านชิบูย่า - France France Shibuya

หากคุณกำลังมองหาของใช้ในบ้านและของตกแต่งในย่านชิบูย่า คุณอาจต้องการไปหาที่ ฟรังก์ฟรังค์ ซึ่งห้างนี้เชี่ยวชาญในการออกแบบตกแต่งภายในและครัวเรือนที่จะสดใส ไม่ว่าคุณจะปรับปรุงบ้าน หรือ ซื้อของเข้าบ้านใหม่มาที่นี่ไม่ผิดหวังแน่นวลครับ

นอกจากสินค้าของตกแต่งบ้านที่กล่าวไป ยังมีรายการสินค้าตามฤดูกาลสำหรับการขายและเสนอส่วนลดพิเศษเป็นครั้งคราว ล่อใจ ดึงคนเข้าห้างกันอีกด้วย

ลองไปดูไม่เสียหลาย อาจได้ของตกแต่งบ้านเก๋ๆสไตร์ญี่ปุ่นกลับมาตั้งที่บ้านคุณก็ได้นะครับ

Website: http://www.francfranc.com/shop/default.aspx

 

แช่ ออนเซนน้ำนมญี่ปุ่น แค่แช่น้ำท่ามกลางหิมะก็ว่าฟินแล้วนะ แต่ถ้าบอกว่ารักษาโรคได้ด้วยหล่ะ จะว่าไง เอ๊ะ อะไร ยังไง ไปดู

ออนเซนน้ำนมญี่ปุ่น

ออนเซนน้ำนมญี่ปุ่น หลายคนอาจคิดว่าเป็นน้ำนมจริงๆ แต่อันที่จริงคือน้ำแร่ที่มีส่วนผสมของเกลือโซเดี่ยม หรือเกลือแกงบ้านเรานี่เองครับ ออนเซนญี่ปุ่น มีหลายแบบ หลายแนว ซึ่งแนวนี้คือ Nyuto Onsen

Nyuto Onsen หรือออนเซนหัวนมถ้าแปลตรงตัวนะครับ ซึ่งเราคงใช้คำนี้คงไม่ดี เอาเป็นว่าเราจะใช้คำว่า ออนเซนน้ำนมญี่ปุ่น ละกันนะครับ

Akita มีทะเลสาบที่ไม่แข็งตัวมีชื่อเสียง คือ Tazawako ทั้งๆที่เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยหิมะในภูมิภาค Tohoku ใน Akita มีน้ำพุร้อนธรรมชาติ ที่แยกตัวออกไปทั่วญี่ปุ่นนอกเหนือจากทะเลสาบ Tazawa

Nyuto Onsen, Eiyaida

ออนเซนน้ำนมญี่ปุ่น คือสุดยอดน้ำพุร้อนที่ซ่อนอยู่คือ “Nyuto onsen” ตั้งอยู่ที่เมืองเซนโบคุ (Senboku) ในจังหวัด Akbita ประกอบด้วย น้ำพุร้อนกลางแจ้ง 7 แห่ง ซึ่งแหล่งที่มีน้ำพุร้อนเหล่านี้เรียกว่าหมู่บ้าน “Nyuto onsen kyo”

เกือบทั้งหมดของโรงแรมเป็นอาคารไม้โบราณตามประเพณีเก่าแก่ คุณสามารถสัมผัสกลิ่นหอมของไม้ที่มีเอกลักษณ์ หลายคนบอกว่ากลิ่นหอมของความคิดถึงและความเพลิดเพลินกับการอาบน้ำกลางแจ้งดูหิมะตกอย่างเงียบ ๆ ในฤดูหนาว

บรรดาผู้ที่ไปที่นั่นเป็นครั้งแรกพวกเขาจึงพอใจจนหลุดปากว่าฉันอยากไปอีก!”

คุณจะได้ประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือนครับ เกลิ่นมาเยอะแล้ว มาดูกันเล้ยยยย

บทความนี้ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง

บริการรถนำเที่ยวญี่ปุ่น

สเน่ห์ของการแช่ ออนเซนน้ำนมญี่ปุ่น กลางแจ้งท่ามกลางหิมะ “Nyuto onsen” อยู่ที่ไหน

ทำไมต้องแช่ ออนเซนน้ำนมญี่ปุ่น

หมู่บ้าน Nyuto onsen ประกอบด้วยน้ำพุร้อนที่แตกต่างกันถึง 7 แห่งและแต่ละแห่งจะแยกตัวออกไป ท่ามกลางภูเขาล้อมรอบด้วยธรรมชาติ

เมื่อใดก็ตามที่คุณมาใช้บริการ คุณจะรู้สึกถึงลักษณะเฉพาะของแต่ละ เช่น ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว แต่ฤดูที่แนะนำมากที่สุดคือฤดูหนาวครับ

หากคุณต้องการเพลิดเพลินกับการอาบน้ำกลางแจ้งที่กำลังมองหาหิมะไม่มีอะไรที่จะดีไปกว่า Nyuto onsen แล้ว

แม้ว่าที่ที่เป็นที่นิยมที่สุดของ ออนเซนน้ำนมญี่ปุ่น คือ “Tsurunoyu” แต่ยังมีทั้ง “Taenoyu”, “Kuroyu onsen”, “Gamiba onsen”, “Magoroku onsen”, “Ogama Onsen” และ “Kyukamura Nyuto onsen village” ให้ลองตามความชอบส่วนตัวของแต่ละคน

ผลพลอยได้จากการแช่นำ้ร้อนที่มีแร่ต่างๆผสมอยู่ คือ ช่วยลดอาการของโรคต่างๆ เช่น ความดันโลหิตสูง, ภาวะหลอดเลือด, โรคไขข้ออักเสบ, โรคผิวหนัง, โรคเบาหวานและโรคอื่น ๆที่เกี่ยวข้อง

ผงแร่ที่มีอยู่ใน Nyuto Onsen

ออนเซนน้ำนมญี่ปุ่น เหล่านี้ไม่จำเป็นต้องเข้าพักในโรงแรมนะครับ เป็นสิ่งที่ดีสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะได้ชมหลายๆแห่งในทริปเดียว โดยเสียวันน้อยที่สุด บางโรงแรมมีแพ็คเกจอาหาร ดังนั้นโปรดตรวจสอบและเลือกว่าที่ไหนจะเข้าเวลาไหน เพื่อไม่ให้อิ่มจนแช่น้ำไม่สนุก หรือเสียฟรีโดยใช่เหตุครับ ^^

“7 สุดยอด ออนเซนน้ำนมญี่ปุ่นมีที่ไหนบ้าง 

  Tsurunoyu Onsen (Reccommended)

 นิวโตะออนเซ็น - Tsurunoyu Onsen

ออนเซนแห่งนี้มีความอายุยาวนานที่สุดในทั้ง 7 ที่ และเราแนะนำเลยสำหรับ ท่านที่เดินทางไปในครั้งแรก กระท่อมน้ำพุร้อนโบราณ เป็นที่นิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในหมู่บ้าน Nyuto onsen มีน้ำพุหลายธีมให้เลือก มีชื่อว่า Plain hot spring น้ำพุดำน้ำอาบน้ำในร่ม  (Indoor bath) และอ่างอาบน้ำน้ำตก (Waterfall bath) ใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์สำหรับรายการทีวีซีรีส์ต่างๆที่มีชื่อเสียง

อาบน้ำกลางแจ้งปกคลุมไปด้วยหิมะในฤดูหนาว โอ้ย สุขใดไหนปาน คุณจะได้สัมผัสกับการบำบัดผ่อนคลายอันสุดยอดในน้ำร้อนสีขาวพร้อมชมวิวหิมะตกบนตึกไม้เก่า อ่างอาบน้ำกลางแจ้งเป็นแบบรวมชายและหญิง แต่ก็ยังมีห้องอาบน้ำแยกเฉพาะสำหรับชายหรือหญิงเท่านั้นอยู่ครับ ไม่ต้องห่วง

※ อ่างกลางแจ้งหยุดทำความสะอาดทุกวันจันทร์แต่ยังสามารถใช้ห้องอาบน้ำในร่มได้อยู่ครับ

ข้อมูลของน้ำพุร้อน Tsurunoyu Onsen

น้ำพุร้อนธรรมดา (Plain hot spring)

  • กำมะถันที่มีโซเดียม
  • แคลเซียมคลอไรด์
  • น้ำแร่ไฮโดรเจนคาร์บอเนต

อ่างอาบน้ำในร่ม (Indoor bath) ประกอบด้วย

  • ไบคาร์บอเนต
  • น้ำแร่ไฮโดรเจนคลอไรด์ซัลไฟด์

อาบน้ำตก (Waterfall bath)

  • กำมะถันที่มีโซเดียมคลอไรด์
  • น้ำแร่ไฮโดรเจนคาร์บอเนต

น้ำพุดำ (Black spring water)

  • เกลือแกง
  • น้ำแร่ไฮโดรเจนคาร์บอเนต

ผลดีต่อร่างกายคือ

  • ความดันโลหิตสูง
  • ภาวะหลอดเลือด
  • โรคไขข้ออักเสบ
  • โรคผิวหนัง
  • โรคเบาหวานและโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

มีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ นอกเหนือจากน้ำพุร้อนใน Tsurunoyu คุณสามารถลอด”Kamakura (ถ้ำหิมะ)” ซึ่งทำโดยเจ้าหน้าที่ของโรงแรม ไม่ต้องกังวลกับการเดินบนหิมะเพราะพวกเขาเตรียมรองเท้าบู๊ทที่มีปลอกคอและเสื้อผ้าอุ่นไว้ให้คุณแล้ว ๆ

 นิวโตะออนเซ็น - บ้านอุโมงค์หิมะ อะคิตะ

Official site : TsurunoyuOnsen 

วางโปรแกรมท่องเที่ยวฟรี

  Kyukamura Nyuto onsen village

Nyuto Onsen - Kyukamura

ออนเซนแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ใหญ่และใหม่ที่สุดใน Nyuto onsen มี 2 ​​สปริง น้ำที่นี่แตกต่างกันห้องอาบน้ำกลางแจ้งสำหรับชายหรือหญิงมีรูปร่างเหมือนกันล้อมรอบด้วยป่าบีช

ในช่วงฤดูหนาวคุณสามารถชมทิวทัศน์หิมะ ใบไม้สีเขียวและสีแดงสดในฤดูอื่น ๆ ได้ นี่เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับการอาบน้ำที่ชื่นชมความงดงามของทุกฤดูกาลเลยก็ว่าได้ครับ

มีอ่างอาบน้ำกลางแจ้งและในร่มแยกต่างหากระหว่างชาย หญิง

ข้อมูลของน้ำพุร้อน Kyukamura Nyuto onsen

  • น้ำแร่ซัลไฟด์ที่เรียบง่าย
  • น้ำแร่ไฮโดรเจนคาร์บอเนต

ผลดีต่อร่างกายคือ

  • น้ำแร่ซัลไฟด์ที่เรียบง่าย

ภาวะหลอดเลือดแข็งตัว·ความดันโลหิตสูงและอื่น ๆ

  • น้ำแร่ไฮโดรเจนคาร์บอเนต

ช่วยสมานแผลมีดบาด, แผลไฟไหม้, ความเมื่อยล้าเรื้อรังและโรคที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ

Official site : KyukamuraOnsen

  Taenoyu Onsen

Taenoyu Onsen

คุณสามารถเพลิดเพลินกับการอาบน้ำการฟังการไหลของแม่น้ำที่อยู่ติดกับอ่างอาบน้ำกลางแจ้งและชมภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ

ในออนเซนที่ชื่อว่า Taenoyu แห่งนี้มี น้ำพุร้อนอยู่ 2 แบบ คือ น้ำพุร้อนสีทองและน้ำพุร้อนเงิน มันเป็นสิ่งที่ดีนอกจากสีที่เป็นมงคลแล้วยังมีผลต่อร่างกายที่ต่างกันด้วย ไม่เพียง แต่สำหรับการเยี่ยมชมหนึ่งวัน แต่ยังสำหรับโรงแรมที่พักค้างคืนก็เป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิงเพราะการต้อนรับและบริการอย่างสุภาพและเอื้อต่อผู้หญิงอย่างมาก

มีสระว่ายน้ำรวมกลางแจ้งสำหรับชายและหญิง แต่มีห้องอาบน้ำแยกกลางแจ้งสำหรับชายหรือหญิง รวมทั้งมีห้องอาบน้ำในร่มแยกต่างหากสำหรับชายหรือหญิง

โปรดระมัดระวังเนื่องจากส่วนประกอบของน้ำพุร้อนผ้าเช็ดตัวสีขาวและวัตถุสีเงินอาจเปลี่ยนสีได้

ข้อมูลของน้ำพุร้อน Taenoyu

น้ำพุร้อนธรรมดา (Plain hot spring)

  • กำมะถันที่มีโซเดียม
  • แคลเซียมคลอไรด์
  • น้ำแร่ไฮโดรเจนคาร์บอเนต

อ่างอาบน้ำในร่ม (Indoor bath) ประกอบด้วย

  • ไบคาร์บอเนต
  • น้ำแร่ไฮโดรเจนคลอไรด์ซัลไฟด์

อาบน้ำตก (Waterfall bath)

  • กำมะถันที่มีโซเดียมคลอไรด์
  • น้ำแร่ไฮโดรเจนคาร์บอเนต

น้ำพุดำ (Black spring water)

  • เกลือแกง
  • น้ำแร่ไฮโดรเจนคาร์บอเนต

ผลดีต่อร่างกายคือ

  • ความดันโลหิตสูง
  • ภาวะหลอดเลือด
  • โรคไขข้ออักเสบ
  • โรคผิวหนัง
  • โรคเบาหวานและโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

Official site : TaenoyuOnsen 

  Ogama onsen

Ogama onsen

ออนเซนน้ำนมญี่ปุ่น แห่งนี้ตั้งอยู่กลางพื้นที่ลาดชันบนภูเขามีรูปปั้นขนาดใหญ่ที่ประตูทางเข้าของอาคารเพื่อเป็นเกียรติแก่ชื่อของน้ำพุร้อน Ogama onsen ถูกโอนย้ายอาคารเรียนของโรงเรียนที่ปิดทำการแล้ว ห้องโถงยาวและห้องเรียนของโรงเรียนเดิมได้เปลี่ยนเป็นพื้นที่รับประทานอาหารและห้องอาบน้ำต่างๆภายในเรียวกังแห่งนี้

รูปปั้นนักเรียนสมัยโบราณ Ogama onsen

การเพิ่มความรู้สึกโรงเรียนเก่าเป็นรูปปั้นด้านหน้าของเรียวกัง: นิโนมิยะคินจิโร่เด็กชายคนหนึ่งที่อ่านหนังสือขณะขนส่งไม้บนหลังของเขาเป็นสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียง แสดงถึง คุณธรรมของการศึกษาและการใช้แรงงานหนักอย่างหนัก

ตอนนี้โรงแรมฤดูใบไม้ผลินี้มีกลิ่นอายของไม้เก่า ๆ ไว้และกระตุ้นความคิดถึง ในช่วงฤดูหนาว คุณสามารถแช่ในอ่างอาบน้ำกลางแจ้งกลางทิวทัศน์ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะตามคอนเซ็ปเริ่มต้นของเรา

มีอ่างอาบน้ำกลางแจ้งและในร่มแยกต่างหากระหว่างชายและหญิง

ข้อมูลของน้ำพุร้อน Ogama onsen

  • ประกอบด้วยน้ำแร่โซเดียมคลอไรด์ซัลไฟด์

ผลดีต่อร่างกายคือ

  • โรคเหงือกอักเสบเรื้อรัง pyoderma โรคไขข้อและโรคที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ

Official site : OgamaOnsen

  Kaniba onsen

ออนเซนน้ำนมญี่ปุ่น - Kaniba onsen

ต้นกำเนิดของ Kaniba onsen มาจากความจริงที่ว่า มีเคยเป็นจำนวนมากปูในบึงกลางป่าดงดิบแห่งนี้ เลยตั้งชื่อว่าบ่อปูอาบน้ำกลางแจ้งกว้างแห่งนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ

รูปปั้นปูสัญลักษณ์ Kaniba onsen

เนื่องจากเป็นที่ตั้งที่อยู่ในป่าที่มีใบไม้เปลี่ยนสี และ ปัจจัยต่างๆอีกมากมายที่ทำให้เกิดความเป็นธรรมชาติของการแช่น้ำแน่ Kaniba onsen แห่งนี้ ทิวทัศน์ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะในฤดูหนาว น้ำในฤดูใบไม้ผลิที่มีความแตกต่างคือมีความใส ไม่มีสีเหมือนรูปแบบของ ออนเซนน้ำนมญี่ปุ่น ตามรูปแบบของ Nyuto onsen ที่เป็นสีขาว

Kaniba onsen มีสระว่ายน้ำกลางแจ้งแบบรวมชาย หญิงเข้า และแบบแยกชาย หญิงสำหรับอ่างอาบน้ำในร่ม

ข้อมูลของน้ำพุร้อน Kaniba onsen

  • น้ำแร่ไฮโดรเจนคาร์บอเนต

ผลดีต่อร่างกายคือ

  • โรคเบาหวานโรคผิวหนังและโรคที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ

Official site : –

  Magoroku onsen

ออนเซนน้ำนมญี่ปุ่น - Magoroku onsen

ลักษณะของ ออนเซนน้ำนมญี่ปุ่น Magoroku onsen คือความหลากหลายของน้ำแร่เนื่องจากมีน้ำพุ 4 แห่งฤดูใบไม้ผลินี้ได้ถูกนำมาใช้เพื่อรักษาคนในอดีตดังนั้นจึงเรียกว่าน้ำแร่ร้อนรักษาโรคจากภูเขา

เนื่องจากตัวรีสอร์ทอยู่อีกฝั่งของแม่น้ำ จึงไม่สามารถเดินทางด้วยรถยนต์เข้าไปได้ มีทางเดียวคือเดินเข้าไปจากจุดสุดท้ายที่รถยนต์เข้าถึง Magoroku onsen ดังนั้นบรรยากาศจะแยกได้อย่างสมบูรณ์ล้อมรอบไปด้วยภูเขาและมีความเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนอย่างยิ่ง

มี 2 ห้องอาบน้ำกลางแจ้งและ 2 ห้องอาบน้ำสำหรับชายและหญิงพร้อมด้วยอ่างอาบน้ำกลางแจ้งเฉพาะสำหรับสตรีและอ่างอาบน้ำในร่มแยกต่างหากสำหรับชายและหญิง

ข้อมูลของน้ำพุร้อนของ Magoroku onsen

  • น้ำแร่เรเดียน

ผลดีต่อร่างกายคือ

  • โรคระบบทางเดินอาหารโรคผิวหนังและโรคที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ

Official site : –

  Kuroyu onsen

ออนเซนน้ำนมญี่ปุ่น - Kuroyu onsen

โคริยูออนเซนเป็นออนเซนที่ตั้งอยู่ในภูเขาลึกของหมู่บ้าน Nyuto onsen ใกล้กับแหล่งน้ำ ประวัติความเป็นมาของมันย้อนกลับไปสู่สมัยเอะโดะซึ่งมีคุณค่ามาก เป็นที่ที่มีสายน้ำ Sendatsugawa ไหลอย่างราบเรียบและเงียบสงบ

โรงแรมแบบดั้งเดิมที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีและอ่างอาบน้ำกลางแจ้งตั้งอยู่กลางป่าภูเขา ตำแหน่งที่ตั้งนี้นับว่าเพียบพร้อมสำหรับการแช่น้ำและหายากที่จะมีสถานที่แบบนี้

มีห้องอาบน้ำกลางแจ้งและในร่มรวมทั้งชายและหญิง และห้องอาบน้ำกลางแจ้งและในร่มที่แยกต่างระหว่างชายและหญิงอีกด้วย

คุณสามารถดื่มน้ำแร่และต้มไข่เป็นไข่ดำต้มน้ำแร่ได้ด้วยนะครับ

ต้มไข่ในน้ำแร่ที่ Nyuto Onsen

ข้อมูลของน้ำพุร้อนของ Kuroyu onsen

  • น้ำแร่ไฮโดรเจนซัลไฟด์ง่าย
  • น้ำแร่ซัลไฟด์ของกรด

ผลดีต่อร่างกายคือ

  • อาบน้ำได้ประโยชน์ คือ ความดันโลหิตสูง·ภาวะหลอดเลือด·ภาวะไหลเวียนโลหิตไหลเวียนโลหิต· Rheumatism และโรคอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
  • ดื่มน้ำได้ประโยชน์ คือ โรคเบาหวาน·โรคพิษสุนัขบ้าเรื้อรัง·โรคไขข้อ·โรค motive และโรคอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

Official site : Kuroyu

จะเดินทางมาหมู่บ้าน ออนเซนน้ำนมญี่ปุ่น “Nyuto onsen Village” ยังไงได้บ้าง

รถยนต์

การเดินทางเข้ามาสู่หมู่บ้าน ออนเซนน้ำนมญี่ปุ่น นั้นไม่ยากเพราะมีถนนเข้าถึงได้สะดวก คุณอาจจะเดินทางด้วยรถยนต์มาเองก็ได้ หรือถ้ามาโดยรถไฟสาธารณะแล้วต่อรถบัสสาธารณะก็ยังได้

รถไฟ

ลงที่สถานี “Tazawako” ของ JR Akita Shinkansen ใช้รถประจำทางประจำที่มีป้ายเขียนว่า Nyuto onsen ติดอยู่หน้ารถ

สำหรับตารางรถ Ugo kotsu กรุณาดูที่นี่

สำหรับคนที่มีแพลนไปที่อื่นด้วยก็แนะนำลงเครื่องที่สนามบินอะกิตะแล้วต่อรถมาหมู่บ้านได้เลยครับ

เครื่องบิน

จากสนามบินอะกิตะประมาณ 90 นาทีโดยรถยนต์

มีรถรับส่งสนามบิน (รถแท็กซี่ร่วม) จากสนามบิน Akita ไปที่ Nyuto onsen

มีแพ็คเกจหรือบัตรส่วนลดไหม หาได้ที่ไหน

บัตรเหมาจ่าย Nyuto Onsen

สำหรับนักท่องเที่ยวท่านใด ต้องการจะสัมผัสกับบรรยากาศของการแช่ ออนเซนน้ำนมญี่ปุ่น แบบลึกซึ้งและครบถ้วนกระบวนความ สามารถหาซื้อบัตรเข้าแบบเหมา รวมทั้ง 7 ที่ ในราคา 1,550 เยนเท่านั้น จากที่ถ้าไปแบบไม่มีบัตร ราคาเต็มอยู่ที่ 3,260 เยน บัตรมีขายสำหรับผู้ที่เข้าพักที่โรงแรม “Yumeguri-Cho” และแหล่งที่ออนเซนอื่นๆระบุไว้ที่เว็บไซด์

บัตรนี้ไม่แนะนำให้ใช้วันเดียวทั้ง 7 ที่ เพราะไม่สามารถไปให้ทันเวลาได้

 

※ ถ้าเห็นว่าบทความนี้เป็นประโยชน์ ตอบโจทย์ของคุณ ปุ่มไลค์ ปุ่มแชร์อยู่ใกล้ กำลังใจล้นเหลือแก่ทีมงานครับผม