พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่นทีเด็ดโตเกียว เที่ยวยัน ฮอกไกโด โป๊ะ ปัง ปั๊วะ ยั่วสุดๆ

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น

เที่ยวญี่ปุ่นฤดูใบไม้เปลี่ยนสี อาจเป็นเป้าหมายหลักในการมาเที่ยวญี่ปุ่นของหลายๆคน วันนี้เรามา พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี ว่ามีช่วงไหนที่เหมาะสมในการชมใบไม้เปลี่ยนสีของเมืองต่างๆ ทั่วญี่ปุ่นบ้าง ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนเดินทางควรจองตั๋วเครื่องบินก่อนแต่เนินๆครับ อาจต้องวางแผนการเดินทางข้ามปีกันเลยทีเดียวเพื่อที่จะได้ค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม

ญี่ปุ่นใครๆก็เที่ยวได้ เพราะไม่ต้องขอวีซ่า ซึ่งสามารถเข้าประเทศได้เป็นระยะเวลา 15 วัน ตามที่ทุกท่านทราบกัน เวลามีจำกัดเช่นนี้เรามาดูกันเลยว่าช่วงเวลาที่แนะนำมีช่วงไหนบ้าง จัดไป

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น

และในครั้งนี้เราจะแนะนำแต่ละที่และช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเที่ยวตาม พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี ให้ละเอียดกันไปอีกจากรูปเบื้องต้นกันครับ

31 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสี ทั่วญี่ปุ่น พร้อมประมาณการช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ที่จะพอประมาณการได้โดยที่นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ จะได้ไม่เสียเวลาและเงินทองไปโดยเปล่าๆปลี้ๆกันครับ

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี ทั่วญี่ปุ่น

1. Aichi

ใบไม้เปลี่ยนสีอิจิ

จังหวัดไอชิ เป็นจังหวัดในประเทศญี่ปุ่นตั้งอยู่ในภูมิภาคจูบุ ประเทศญี่ปุ่น เมืองศูนย์กลางคือ Nagoya การ พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี ของที่นี่ซึ่งมีหลายที่เที่ยวสำคัญทั้ง การดูซากุระพร้อมใบไม้แดง (Obara) หรือ การชมต้นบ๊วยในเขตเมืองก็ดีอย่างยิ่งในการเดินทางของท่านครับ

ช่วงเวลาที่เหมาะสม : กลางเดือนพศจิกายน

2. Alpine Route

ใบไม้เปลี่ยนสี Alpine Roue

เส้นทางที่เริ่มต้นที่เขาทาเตยามะ (Mount Tateyama) ในจังหวัดโทยามะ (Toyama) ไปสิ้นสุดที่สถานีโองิซาวะ (Ogisawa) ในจังหวัดนะงะโนะ (Nagano) ระยะทางยาวประมาณ 25 กิโลเมตร และต้องอาศัยยานพาหนะหลากหลายรูปแบบในการเดินทาง ทั้งเคเบิ้ลคาร์ รถบัส และกระเช้าไฟฟ้า เป็นต้น โดยตลอดเส้นทางนี้นักท่องเที่ยวจะได้รื่นรมย์กับทิวทัศน์อันยิ่งใหญ่ตระการตาของเทือกเขาแอลป์เหนือซึ่งครอบคลุมระยะทางกว่า 3,000 เมตร เส้นทางนี้จะเปิดให้ขึ้นได้ไม่ตลอดทั้งปี เนื่องจากหิมะและอากาศแปรปรวน พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี ของ Alpine Route ก็จะตรงกับช่วงท้ายๆของการเปิดให้ขึ้นไปเที่ยวกันพอดี

ช่วงเวลาที่เหมาะสม : กลางเดือนตุลาคม – กลางเดือนพศจิกายน

3. พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี   Aomori

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี Aomori

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี ของอาโอโมรินี้จะมาค่อนข้างเร็ว เนื่องจากอยู่ทางเหนือของเกาะฮอนชู การได้มาเที่ยวที่ Aomori ซึ่งมีธรรมชาติที่งดงาม รวมทั้งป่าไม้เขตร้อนที่จะเปลี่ยนสีตามสภาพอากาศที่หนาว และการได้ขับรถท่ามกลางทะเลใบไม้เปลี่ยนสี ก็เป็นประสพการณ์ที่ยากจะลืมเลือนครับ ตุลานี้นึกถึงใบไม้เปลี่ยนสี นึกถึงอาโอโมริ แล้วคุณจะไม่ผิดหวังแน่นอน คอนเฟิร์ม

ช่วงเวลาที่เหมาะสม : ตลอดเดือนตุลาคม

4. Chubu

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี Chubu

ภูมิภาคชูบุเป็นภูมิภาคที่อยู่ในเขตของเกาะใหญ่ของญี่ปุ่น คือ เกาะฮอนชู ประกอบด้วยจังหวัดทั้งหมด 9 จังหวัด ได้แก่ Fukui, Ishikawa, Toyama, Shizuoka, Aichi, Gifu, Yamanashi, Nagano และ Niigata ภูมิภาคนี้เป็นที่ๆมีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นอยู่แล้ว สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ภูเขาไฟฟูจิ ชิรากาวะหมู่บ้านมรดกโลก หรือ ลิงแช่ออนเซ็น

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี ของเขตนี้จึงค่อนข้างยาวนานพอสมควรกว่า 2 เดือนกันเลยทีเดียว แต่ก็เป็นการดี เนื่องจากเราจะได้แพลนเวลาที่จะเที่ยวและ สถานที่เที่ยวให้อยู่ในงบประมาณเราได้ง่ายขึ้นครับ

ช่วงเวลาที่เหมาะสม : ปลายเดือนตุลาคม – ต้นเดือนธันวาคม

5. Chugoku

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี Chubu

ภูมิภาคชูโกกุ เป็นภูมิภาคที่ต่อจาก ภูมิภาคชูบู มาทางตอนใต้ ประกอบด้วย 5 จังหวัดใหญ่ ดังนี้ Okayama, Hiroshima, Yamaguchi, Tottori และ Shimane แหล่งท่องเที่ยวมากมาย เช่น ศาลเจ้ามิยาจิม่า ทะเลทรายแห่งเดียวในญี่ปุ่น สะพานเรื่องชื่อของยามากุชิ และที่อื่นๆอีกมากมาย

ช่วงเวลาที่เหมาะสม : ตลอดเดือนพศจิกายน

6. Daisetsuzan National Park

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี Daisetsuzan National Park

ย้อนกลับขึ้นมายังเกาะตอนเหนือสุดของประเทศ อุทยานไดเซ็ทซูซาน ที่ๆเต็มไปด้วยต้นไม้ผืนป่าขนาดใหญ่ เวลาใบไม้เปลี่ยนสีก็จะดูจะมีความยิ่งใหญ่อลัง เอามากๆ สถานที่แห่งนี้เหมาะมากกับการขับรถเที่ยว ไม่ว่าจะเช่ารถขับเอง หรือจ้างบริการรถนำเที่ยว ก็จะเป็นอะไรที่ดีต่อใจมาก คู่รักที่แต่งงานแล้วอาจมาที่นี่เพื่อรีฮันนีมูนอีกรอบก็ได้นะครับ

ช่วงเวลาที่เหมาะสม : ต้นเดือนกันยายน – ต้นเดือนตุลาคม

7. Hakone

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี Hakone

ฮาโกเน่อยู่ในภูมิภาคชูบุและเป็นอีกสถานที่ที่ใกล้โตเกียว ขับรถเพียง 2 ชมนิดๆ ก็ชิวได้กับสถานที่ชมใบไม้แดงมากมาย ซึ่งเราก็ได้แนะนำไว้ในหลายๆบทความ สถานที่เที่ยวเช่น ทะเลสาปอะชิ กระเช้าฮาโกเน่ โอวาคุดานิ หรือ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ ฮาโกเน่ นั่งรถมาพักออนเซ็นซัก 1-2 คืน เที่ยวเก็บสถานที่ต่างๆแล้วยังมีเวลาเหลือให้ช็อปปิ้งอีก ดี๊ดีอย่างนี้ จองตั๋วบินมาเลยดีกว่าครับ รอไร

ช่วงเวลาที่เหมาะสม : ตลอดเดือนพศจิกายน

8. Hiroshima

ใบไม้เปลี่ยนสีฮิโรชิม่า

ฮิโรชิม่าเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันขมขื่น แต่ก็แฝงไปด้วยศิลปะ วัฒนธรรมที่เก่าแก่ ยาวนาน ที่เที่ยวมากมาย เช่น ศาลเจ้ามิยาจิม่า วัดโอโนมิจิ หมู่บ้านชาวประมงโทโมโนอุระ ใครชอบแนวดิบๆ หน่อยแนะนำเลยครับ ท่านจะได้ภาพถ่ายกับสถานที่หลงเหลือจากเหตุการณ์ทิ้งระเบิดในครั้งนั้นเป็นฉากหลังผสมกับใบไม้สีแดงที่ร่วงโรย เป็นอีกธีมที่น่าเก็บเป็น Collection ครับ

ช่วงเวลาที่เหมาะสม : ตลอดเดือนพศจิกายน

9. Hokkaido

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี Hokkaido

เกาะทางเหนือของญี่ปุ่น ที่มีสเน่ห์น่าหลงไหล มีกลิ่นไอของความเป็นญี่ปุ่นและความเป็นตะวันตกผสมผสานกันอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นไร่นา หรือ สิ่งปลูกสร้างก็แทบจะถอดแบบมาจากอเมริกา เลยทีเดียว ดอกไม้ที่มีชื่อเสียง เช่นดอกลาเวนเดอร์ ทุ่งขนาดใหญ่ก็ได้วัฒนธรรมมาจากประเทศผู้ปกครอง

สถานที่เที่ยวในฮอกไกโดนั้นจัดว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวอย่างแท้จริงเลยทีเดียวครับ มีทั้งธรรมชาติ และ มนุษย์สร้างขึ้น ถ้าปีไหนอากาศหนาวมาเร็ว เราก็อาจได้สัมผัสทุ่งลาเวนเดอร์และใบไม้เปลี่ยนสีไปพร้อมๆกันเลยทีเดียว เรียกว่าคุ้มค่ามากครับ ช่วงปิดเทอมเด็กเลือกฮอกไกโดเป็นจุดหมายปลายทางของครอบครัวคุณได้เลยครับ

ช่วงเวลาที่เหมาะสม : ปลายเดือนกันยายน – ปลายเดือนตุลาคม

10. Iwate

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี Iwate

จังหวัดที่อยู่ติดกับอาโอโมริ และมีขนาดพื้นที่ใหญ่มากที่สุดในย่านนี้เลยก็ว่าได้ อิวาเตะตั้งอยู่ด้านตะวันออกสุดของเกาะฮอนชู การเดินทางมายังจังหวัดนี้สามารถใช้รถไฟชินคันเซน หรือจะนั่งเครื่องมาลงที่ เซนไดแล้วต่อรถมายังอีกทีก็ได้ครับ

อิวาเตะมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย เฉพาะ ใบไม้เปลี่ยนสีอิวาเตะ ก็ไปเที่ยวไม่หมดในทริปเดียวเลยหล่ะ คุณสามารถใช้เวลาในช่วงวันหยุดหรือวันพักผ่อนของคุณไปกับสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสี เช่น เทือกเขาฮายาชิน ทะเลสาปคินชู หรือวัดชุซันจิ ก็ล้วนแล้วแต่ยังเป็นสถานที่ๆเงียบสงบ รอการมาเยือน ใครที่เบื่อกับฝูงนักท่องเที่ยว ต้องการความสะดวกสบาย ไม่แออัด แนะนำเลยครับ รักนะที่อิวาเตะ (อันนี้แอดแต่งเอง) หุหุ

ช่วงเวลาที่เหมาะสม : ตลอดเดือนตุลาคม

11. Japan Alps

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี Japan Alps

เจแปนแอลป์ นิยามแห่งขุนเขาและลำน้ำจากธารน้ำแข็งที่ละลายมายังเขื่อนบนหุบเขา ที่อยู่ระหว่างแนวเขาฮาริโนกิ และ แนวเขาทาเตะ ที่มาของชื่อคงไม่ต้องบรรยายมาก เอาเป็นว่าสวยละกัน มากี่ครั้งก็ไม่เบื่อ เที่ยวชมวิวเสร็จไปทานเนื้อมัสซึซากะต่อหน้าเตาย่างแบบญี่ปุ่น สุขใดไหนปานเลยทีเดียวเชียว

ช่วงเวลาที่เหมาะสม : ต้นเดือนตุลาคม – กลางเดือนพฤศจิกายน

12. Kamakura

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี Kamakura

วิวใบไม้แดงกับพระใหญ่ที่วัดโคโตคุ แห่งเมืองคามากุระ ใครนิยมไหว้พระ หรือชอบเที่ยวเมืองศาสนามาถูกที่แล้วครับ เพราะสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีของเมืองนี้มีตามวัดต่างๆ เช่น วัดเอ็นคากุจิ วัดซูเซนจิ และอีกหลายๆวัดที่ไม่ได้กล่าว แต่ละวัดไม่ห่างกันมากแทบจะเดินไปได้เลยทีเดียวครับ ใบไม้เปลี่ยนสีคามากุระ น่าไปสุดๆเลยหล่ะ ขอบอก

ช่วงเวลาที่เหมาะสม : กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม

13. Kamikochi

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี Kamikochi

คามิโกจิ สวรรค์บนดิน กับธรรมชาติที่เป็นธรรมชาติแบบไร้การแตะต้องเลยจริงๆ ธารน้ำแข็งละลาย ใบไม้เปลี่ยนสีคามิโคจิ  สุดยอดแห่งการพักผ่อน ท่านจะได้ฟังเสียงธรรมชาติ เสียงหัวใจของตัวเอง เหมาะแก่การเป็นสถานที่สร้างแรงบันดาลใจของเหล่านักสู้ทั้งหลาย มาชาร์ทไฟที่ญี่ปุ่น แล้วกลับมาลุยกันต่อครับ

ช่วงเวลาที่เหมาะสม : ต้นเดือนตุลาคม – กลางเดือนตุลาคม

14. Kanazawa

ใบไม้เปลี่ยนสี kanazawa

คานาซาว่า เมืองใหญ่ทางภาคตะวันตกของญี่ปุ่น มีแหล่งชมใบไม้เปลี่ยนสีท่ีสำคัญ คือ โมมิจิ (Maple) ที่สวนเคนโรคุซึ่งอยู่ไม่ไกลจากปราสาทคานาซาว่า เป็นภูเขาที่สามารถมองเห็นวิวเมืองได้อย่างชัดเจน และเป็นสถานที่ระลึกถึงบรรพชนผู้ก่อร่าง สร้างเมืองจนเป็นเมืองหน้าด้านที่สำคัญของญี่ปุ่นทางฝั่งตะวันตกเลยทีเดียว

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี ที่คานาซาว่าปีนี้ น่าจะเร็วกว่าทุกปี นั่งเรือเล่นชมวิวใบไม้แดงที่แม่น้ำไซกะวะ จบด้วยอาหารพื้นเมือง และแช่ออนเซ็นอุ่นๆ

ช่วงเวลาที่เหมาะสม : กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม

15. Kansai

ใบไม้เปลี่ยนสีคันไซ

ภูมิภาคที่คนไทยคุ้นเคย ประกอบไปด้วยจังหวัด เกียวโต ชิกะ นารา มิเอะ วาคายาม่า โอซาก้า และ เฮียวโงะ เรื่องสถานที่เที่ยว ภูมิภาคนี้คนไทยมีความคุ้นเคยอย่างมาก พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี ที่ คันไซปีนี้ไม่แน่อาจเร็วมากๆครับ รีบมาชมก่อนที่จะได้ชมแต่กิ่งได้ครับ

ช่วงเวลาที่เหมาะสม : ต้นเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม

16. Kyoto

ใบไม้เปลี่ยนสีเกียวโต

เช่นเคยครับ ตามวัดต่างๆ ย่านกิออน ป่าไผ่ ล่องเรือ และนั่งรถไฟชมใบไม้เปลี่ยนสี ที่อราชิยาม่า เมืองเกียวโตนี่เป็นเมืองเก่าที่มีฝังเมืองสวยกว่าเมืองที่เกิดใหม่อย่าง โอซาก้า หรือ โตเกียว ใครเคยไปบอกเลยหลงยากครับ เป็นบล็อคสี่เหลี่ยม

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี ที่เกียวโตอาจมาเร็วไม่ถึงกลางธันวาเหมือนหลายๆปีครับ

ช่วงเวลาที่เหมาะสม : กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม

17. Kyushu

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี Kyushu

ภูมิภาคคิวชู ประกอบด้วย คะโงะชิมะ คุมะโมะโตะ ซะงะ นะงะซะกิ ฟุกุโอะกะ มิยะซะกิ โออิตะ โอะกินะวะ ภูมิภาคนี้จะไม่ค่อยเด่นเรื่องใบไม้เปลี่ยนสีเท่าที่ควร เนื่องจากเป็นเมืองตากอากาศ เมืองชายหาดของญี่ปุ่น อากาศหนาวจึงน้อยกว่าทุกภูมิภาค แต่ก็พอมีที่เที่ยวในหน้าใบไม้เปลี่ยนสี เช่น Obuchi-Mebuchi Park และสวนต่างๆในจังหวัดซะงะ

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี ช่วงเวลาที่เหมาะสม : ตลอดเดือนพฤศจิกายน

18. Lake Towada

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี Lake Towada

กลับขึ้นเหนืออีกรอบที่จังหวัดอาโอโมริ ทะเลสาบที่อยู่ใจกลางทวีป มีเส้นทางสายใบไม้แดงหลายเส้นทางผ่านทะเลสาบแห่งนี้ นั่งเรือชมใบไม้แดงอีกแล้วครับท่าน  แต่ก่อนจะล่องเรือ ท่านต้องไปชมน้ำตก เดินป่าก่อน มีมนต์สเน่ ไม่น้อยเลย สำหรับใบไม้เปลี่ยนสีที่อาโอโมริแห่งนี้ครับ

ช่วงเวลาที่เหมาะสม : ตลอดเดือนตุลาคม

19.Miyagi

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี Miyaji

จังหวัดมิยะงิ  เป็นจังหวัดในประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในภูมิภาคโทโฮะกุของญี่ปุ่นอยู่บนเกาะฮอนชู มีเซ็นไดเป็นเมืองหลวงเป็นเมืองแห่งปราสาท และหนึ่งในนั้นเป็นปราสาทที่ไดเมียวดาเตะ มาซามุเนะ เจ้าผู้ครองแคว้นโบราณเคยสร้างเอาไว้ เด่นในด้านเกษตรกรรมและการประมง และเป็นแหล่งจุดชมวิวที่สวยงามของญี่ปุ่นที่อ่าวมัตสึชิมะ

ช่วงเวลาที่เหมาะสม : กลางเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน

20.Miyajima

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี Miyajima

Miyajima เป็นเกาะขนาดเล็กที่อยู่นอกเมืองฮิโรชิม่าโดยนั่งเรือไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง สถานที่ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด คือ ประตู torii ซึ่งเมื่อเวลาน้ำขึ้นสูงๆ จะดูเหมือนว่าประตูลอยอยู่บนน้ำ ภาพนี้เป็นหนึ่งในสามมุมมองที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น

ในขณะที่ชื่อ Itsukushima อย่างเป็นทางการของเกาะ ซึ่งเกาะนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า Miyajima, Japanese จึงเรียกเกาะนี้ว่า “เกาะศาลเจ้า” เนื่องจากเกาะนี้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับศาลเจ้า Itsukushima Shrine กับประตู Torii นั่นเอง

อาคารหลักของศาลถูกสร้างขึ้นเหนือน้ำ และเป็นสถานที่ศักสิทธ์ที่มีพิธีกราบไหว้ทุกปี และมีการจุดพลุในทะเล ที่สวยงามในเดือนสิงหาคม เดือนแห่งดอกไม้ไฟญี่ปุ่น

ช่วงเวลาที่เหมาะสม : ตลอดเดือนพฤศจิกายน

21.Mt. Fuji

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี Mt. Fuji

ภูเขาไฟฟูจิ ภูเขาที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นที่ไม่มีใครไม่รู้จัก ภูเขาไฟที่ยังไม่ดับแห่งนี้ มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวอย่างมาก ทุกฤดูการจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเพื่อที่จะเก็บภาพเจ้าฟูจิซัง ที่ขี้อายอย่างสม่ำเสมอ สถานที่ที่มีชื่อเสียงเรื่องใบไม้เปลี่ยนสี คือ ทะเลคาวากุจิโกะ และ อุโมงค์ใบเมเปิ้ล ซึ่งมีการประดับไฟยามค่ำคืนในทุกปี

ช่วงเวลาที่เหมาะสม : ต้นเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม

22.Nagano

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี Nagano

เป็นเมืองสำคัญที่มีทำเลที่ตั้งเหมาะสมในการตั้งฐานทัพ จึงมีการสร้างฐานทัพทหารในภูเขาขึ้นที่เมืองแห่งนี้ ในปี พ.ศ. 2488 เมืองนากาโน่ยังได้เป็นเมืองที่จัดแข่งกีฬาโอลิมปิกคนพิการในปี 1998 อีกด้วย สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สำคัญ เช่น Kanman fall (Mt.Shiga-kogen), Biwa lake, Azusa river และอีกหลายๆที่ เมืองนี้มักจะเป็นเมืองที่เป็นเป้าหมายที่ 2 ต่อจาก ฮาโกเน่ ฟูจิ และ นิกโก้ เนื่องจากระยะทางที่ค่อนข้างไกลจากโตเกียวสักนิด แต่ก็เป็นสถานที่ๆ น่าเดินทางมาอย่างมากครับ ไม่ผิดหวังแน่ถ้ามาเที่ยวฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่นากาโน่

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี ช่วงเวลาที่เหมาะสม : ต้นเดือนตุลาคม – กลางเดือนพฤศจิกายน

23.Nagoya

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี Nagoya

เมืองอุตหกรรมที่คนไทยรู้จักดี เป็นแหล่งอุตสาหกรรมหนักของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หลอมเหล็ก หรือ อื่นๆ มีสถานที่เที่ยวมากมาย แน่นอนรวมทั้งใบไม้เปลี่ยนสีด้วย ยังมี “ปิโยริน” ขนมเค็กรูปลูกเจี๊ยบแสนอร่อย มีเที่ยวบินตรงจากเมืองไทยด้วย สะดวกทุกการเดินทาง สำหรับท่านที่มีเป้าหมายเป็น หมู่บ้านมรดกโลก ชิราคาวะ แนะนำลงที่ Chubu Airport ได้เลยครับ ทำ 1 day trip ก็ยังไหว หุหุ

ช่วงเวลาที่เหมาะสม : กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม

24.Nara

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี Nara

พูดถึงนารา คนไทยรู้ทันทีครับ เมืองที่มีกวางเยอะๆใช่ไหม นาราในวันนี้ก็ยังเป็นเมืองที่มีกวางเยอะ และยังมีใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามครับ ใครจะไปเกียวโต ขอให้พักเกียวโตซักคืน ขากลับโอซาก้าก็ให้แวะนารา เที่ยวไล่ไปจบที่ Ringu Outlet หรือ ปราสาทโอซาก้า ก่อนเข้าโอซาก้าครับ ใกล้มากๆ จะไปมิเอะ หรือ วาคายาม่าก็ผ่านที่นาราก่อนได้เสมอ

ช่วงเวลาที่เหมาะสม : กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม

25.Nikko

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี Nikko

นิกโก้ เมืองที่เหมาะที่สุดในการเที่ยวชม ใบไม้เปลี่ยนสีที่เขตคันโต นิกโก้มีทั้ง วัด เมืองโบราญ น้ำตก รวมทั้งเส้นทางสายโรแมนติกที่เลื่องชื่อในญี่ปุ่น ด้วยตำแหน่งที่คาบเกี่ยวระหว่างเขตอากาศหนาวมากๆ กับเขตอบอุ่น จึงมีช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสีที่ยาวนานถึง 45 – 50 วัน ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่นิกโก้ จึงเป็นที่ๆ น่ากำหนดเป็นเป้าหมายแรกๆ ในการเดินทางเลยครับ

ช่วงเวลาที่เหมาะสม :ต้นเดือนตุลาคม – กลางเดือนพฤศจิกายน

26.Osaka

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี Osaka

“โอซะกะ” หมายถึง เนินเขาใหญ่ ในสมัยก่อน โอซะกะเป็นที่รู้จักกันในชื่อ นะนิวะ และไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าเปลี่ยนเป็นโอซะกะตั้งแต่เมื่อใด แต่มีหลักฐานว่ามีการเปลี่ยนการเขียนใหม่ในภาษาคันจิ เพื่อให้เป็นสิริมงคลมากยิ่งขึ้น จึงใช้ โอซาก้ามาจนถึงปัจจุบัน

เมืองโอซาก้าจัดเป็นเมืองสำคัญเมืองที่ 2 รองจากโตเกียว เปรียบเหมือนเมืองท่าของญี่ปุ่น ที่เที่ยวสำคัญ เช่น ปราสาทโอซาก้า อ่าวโกเบ ถนนย่านช็อปปิ้ง และต้นไม้เปลี่ยนสีบนตึก

ช่วงเวลาที่เหมาะสม : กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม

27.Sakurayama

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี Sakurayama

คล้ายๆกับหัวข้อแรก แต่ระบุให้ชัดลงไปอีก เผื่อบางคนพลาดชมดอกซากุระบาน ก็จะรวบมาชมได้นี่ครับ

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี ช่วงเวลาที่เหมาะสม : ตลอดเดือนพฤศจิกายน

28.Shikoku

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี Shikoku

เกาะชิโกะกุ เป็นเกาะที่เล็กที่สุดในบรรดาสี่เกาะหลักของญี่ปุ่น ด้วยความที่เป็นเกาะ แต่สามารถขับรถหรือนั่งรถไฟเข้าถึงได้อยู่ ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเดินทางไป ชิโกะกุ นี้แหล่งท่องเที่ยวมากมาย เช่น น้ำวนกลางทะเล หุบเขาคาเนดะ หมู่บ้านยาสุ เป็นต้น

ช่วงเวลาที่เหมาะสม : กลางเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม

29.Takayama

ใบไม้เปลี่ยนสี Takayama

ทาคายาม่า เมืองที่ทุกคนที่มาหมู่บ้านชิราคาวะ ต้องไปพักต่อที่นี่ มีเนื้อเรื่องชื่อ คือ เนื้อฮิดะ เป็นเนื้อที่มีชื่อเสียง เรียกว่าผลัดกันรับรางวัลระหว่างโกเบ และ ฮิดะ เลยทีเดียว ที่เที่ยวไม่ต้องพูดถึง เยอะมาก ไปให้ถูกช่วงเป็นพอครับ

ช่วงเวลาที่เหมาะสม : กลางเดือนตุลาคม – กลางเดือนพฤศจิกายน

30.Tohoku

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี Tohoku

ภูมิภาคที่ประกอบไปด้วย จังหวัดฟุกุชิมะ มิยะงิ ยะมะงะตะ อะกิตะ อะโอะโมะริ และอิวะเตะ ตามที่กล่าวไปแล้วมากมายสำหรับแต่ละจังหวัด ภูมิภาคนี้แม้จะมีปัญหาเนื่องจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิด ที่ฟูกุชิมะ แต่ก็ยังมีอีกหลายที่ๆ น่าเดินทางมาเยือนอย่างยิ่งครับ หาเวลามาไม่ผิดหวังแน่ครับ

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี ช่วงเวลาที่เหมาะสม : ต้นเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน

31. Tokyo

พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี Tokyo

โตเกียว มหานครที่ไม่มีวันหลับไหล แค่ สถานที่เที่ยวยามค่ำคืนที่ไม่ปิดถึงเช้า และสถานที่ช็อปปิ้งที่ 2 ทุ่มแล้วยังมีคนมาเดินช็อปกันอยู่ไม่กลับบ้านกลับช่อง เมืองที่ประชากรเกือบ 50 % ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว เนื่องจากค่าที่จอดรถแพงกว่าค่าผ่อนรถเสียอีก ที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีมีมากมายครับ โชคดีอาจไปทันช่วงต้นบ๊วยเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองทั้งต้น ร่วงเต็มถนนทั้งสาย

ที่ๆน่าไปที่สุด สะดวกสบายที่สุด มีที่เที่ยวเยอะสุด ที่นี่ครับ “มหานครโตเกียว”

ช่วงเวลาที่เหมาะสม : ปลายเดือนพฤศจิกายน – ต้นเดือนธันวาคม

เที่ยวทั่วไทยไปไกลทั่วโลก

Add Your Heading Text Here

ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น กับ 20 เส้นทางที่จะสร้างความประทับใจ ไม่รู้ลืม!!

ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น

การเดินทางไปชม ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ตามสถานที่ๆ มีการแนะนำในหลายๆเว็ป ก็เป็นจุดหมายที่น่าไปอย่างยิ่งครับ วันนี้เราไม่ได้มาแนะนำสถานที่จุดหมายครับ แต่เรามาเสนอความสุขระหว่างการเดินทางให้ทุกท่านครับ “เพราะความสุขเกิดขึ้นได้ระหว่างการเดินทาง” อุ๊ปว่าไปนั่น แฮะๆ การเดินทางที่ไกลและต้องใช้เวลานั่งอยู่บนรถ 2-3 ชม. ก็ไม่ใช่เรื่องดี หลายคนอาจจะหลับ เราเลยอยากแนะนำ 20 เส้นทางที่จัดว่าสวยที่สุดในญี่ปุ่นในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีครับ

1.ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ที่ Bandai Azuma Skyline

ใบไม้เปลี่ยนสี ที่ Azuma

ถนนอัลไพน์ที่ยาวประมาณ 29 กิโลเมตรตัดผ่านเทือกเขา Azuma Mountain ซึ่งเส้นทางตัดผ่านผืนป่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้ มองในมุมตามรูปคล้ายกับว่าผืนป่าถูกเย็บเข้าด้วยกันเป็นแนวเทือกเขาที่มีความสูงถึง 1,622 เมตร คุณสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่น่าประทับใจของเมืองฟูกุชิมะและเส้นทางที่สวยงามสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์อันงดงามของผืนป่าตัดกับขอบฟ้า

จากทางเดินที่เต็มไปด้วยใบไม้ที่ร่วงปลิวและสีสรรของต้นฤดูใบไม้ผลิจนถึงช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงในปลายปี ฤดูใบไม้ร่วงเส้นทางสาย Bandai-Azuma Skyline จะดึงดูดผู้เดินทางจากบริเวณที่ใกล้และไกลไปด้วยทิวทัศน์ที่น่าทึ่งนี้

ช่วงเวลาเปิดทำการ

เปิด Mid-April to Mid-November

ปิด ระหว่างหน้าหนาว (Mid-November to Mid-April)

เส้นทาง : https://goo.gl/YLo6at

2.ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ที่ Hachiman daira Aspite Line

ใบไม้เปลี่ยนสี ที่ Hachimantai

เป็นภูเขาที่คดเคี้ยวเส้นทางข้ามภูเขา Hachimantai .Mt. Hachimandaira ตั้งอยู่ตรงข้าม Akita และ Iwate เส้นทางนี้มาจากน้ำพุร้อน Gozaisho ใน Iwate ยาวไปจนถึงน้ำพุร้อน Toroko ใน Akita โดยเฉพาะจากฝั่ง Iwate คุณสามารถเพลิดเพลินกับการขับขี่และมองเห็นทัศนียภาพแบบไดนามิกและเปิดกว้างพร้อมกับเทือกเขาอิวาเตะ

เส้นทางนี้มีความยาวกว่า 30 กม. และมีความคดเคี้ยวพอดู เนื่องจากไม่มีการเจาะอุโมงค์ ในระหว่างเส้นทางมี Mikaeri-toge (pass) และมีที่จอดรถขนาดใหญ่ (จ่ายเงินและฟรี) รวมทั้งมีเส้นทางที่นำไปสู่ด้านบนของ Hachimandaira และ Hachiman swamp

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีน้ำพุร้อนที่โดดเด่นของเขต Tohoku ที่มีอยู่ทั้งทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตกของ Hachimandaira ถ้าคุณมาปั่นจักรยานออนเซนเหล่านี้จะทำให้คุณผ่อนคลายและบรรเทาอากาศเหน็ดเหนื่อยจากการปั่นได้ หรือแม้คุณจะขับรถออนเซนก็จะช่วยให้คุณเพลิดเพลินและพักสายตาจากสีเหลืองของใบไม้ เป็นไอน้ำและกลิ่นหอมของไม้สนที่แช่น้ำร้อนจนมีกลิ่นหอม ช่วยลดอาการไมเกรนได้อย่างดีทีเดียว

เส้นทาง : https://goo.gl/jSVBPA

3.ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ที่ Hakusan – Shirakawago

ใบไม้เปลี่ยนสี ที่ Shirakawago

Hakusan White Road (เดิมชื่อ Hakusan Super Rindo) เป็นถนนที่คดเคี้ยวบนภูเขาซึ่งเชื่อมต่อระหว่างเมือง Hakusan ในจังหวัดอิชิคะวะไปยัง Shirakawa-go ในจังหวัดกิฟุ ถนนที่มีการบำรุงรักษาเป็นอย่างดีมีความยาว 33.3 กิโลเมตร สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1400 เมตรและมีทัศนียภาพอันงดงามกว้างไกล เส้นทางเดินป่าและน้ำตกหลากหลายแห่งตลอดเส้นทางนี้

ถนน Hakusan White Road เปิดให้บริการตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน ถนนสายนี้สวยงามในช่วงฤดูร้อนจากป่าโดยรอบเขียวชอุ่มและเขียวขจี อย่างไรก็ตามในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงที่ต้นไม้ที่โตแล้วจะเปลี่ยนสีและช่วยเพิ่มสีสรรในฤดูใบไม้ร่วง (koyo) ใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสีรอบๆยอดเขาก่อนในช่วงปลายเดือนกันยายนและจะค่อยๆเปลี่ยนสีไล่ลงสู่หุบเขาในช่วงเวลาหนึ่งเดือนนับจากนี้และจะใบไม้ก็จะค่อยๆร่วงหล่นจนหมดเพื่อรับกับอากาศหนาวในหน้าหิมะต่อไป

บริเวณด้านกิฟุของภูเขามีถนนโค้งมากและมีป้ายหยุดไม่กี่จุด ถนนจะมีความลาดชันอย่างมากก่อนเข้าสู่อุโมงค์ที่เชื่อมต่อกับจังหวัดทั้งสองแห่ง เส้นทางเดินป่า 40 นาทีจากประตูทางเข้าอุโมงค์ไปยังยอดเขา Sanboiwadake เป็นที่ตั้งของยอดเขาที่สูงประมาณ 1,736 เมตร เส้นทางนี้สามารถเดินต่อไปอีก 15 ชั่วโมงไปยังยอดเขา Hakusan น่าลองดูนะครับ แต่ดูแล้วต้องมีอุปกรณ์ตั้งแคมป์เพื่อพักแรมกลางป่า

ฝั่งอิชิคาวะผ่านถนนหลายสาย และมีนำ้ตกที่ใหญ่ที่สุดคือ Fukubeno Otaki ที่ตกลงมาเป็นเส้นตรงสูงถึง 86 เมตร ซึ่งเส้นทางนี้มีน้ำตกเรียงรายอยู่ข้างทางมากมาย อย่างไรก็ตามไฮไลต์ของ Super Rindo อาจเป็นสปริงน้ำพุ Oyadaninoyu ริมแม่น้ำ ห้องอาบน้ำแบบผสมผสานนี้เป็นที่สูงชันเดิน 15 นาทีลงไปในหุบเขาจากถนน มีทิวทัศน์ที่สวยงามบนน้ำตก Ubagataki อ่างอาบน้ำสามารถมองเห็นได้จากเส้นทางไปยังน้ำตกอย่างชัดเจน

เส้นทาง : https://goo.gl/N4HJSt

4.ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ที่ The Icho Namiki Avenue

ใบไม้เปลี่ยนสี ที่ Icho Namiki

ถนน Icho Namiki ใน Gaienmae เป็นถนนสายใหญ่ในกรุงโตเกียวตลอดทั้งปี ยกเว้นบางสัปดาห์ต่อปี (กลางเดือนพฤศจิกายนถึงกลางเดือนธันวาคม) เมื่อต้นบ๊วยที่เรียงรายอยู่ทุกด้านของถนนเปลี่ยนเป็นทอง สิ่งนี้เปลี่ยนเป็นสถานที่ที่ค่อนข้างกลมกลืน ถนนสายนี้เป็นถนนที่มีมนต์ขลังและโรแมนติก ซึ่งคุ้มค่าที่มาเยือนอย่างยิ่ง หากคุณมาเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงเวลานี้ของปี!

เส้นทาง : https://goo.gl/6V3PKQ

5.ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ที่ Irohazaka Winding Road

ใบไม้เปลี่ยนสี ที่ Irohazaka

Irohazaka เป็นถนนที่คดเคี้ยวเชื่อมต่อกับจุดต่ำสุดของ Nikko ในเทือกเขาโทจิกิ ไปยังจุดสูงสุดของ Oku-Nikko ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของ Nikko “i-ro-ha” เป็นตัวอักษรสามตัวแรกของพยางค์ 48 ตัวที่ใช้อักษรญี่ปุ่น (ซึ่งตอนนี้รู้จักกันในนาม “aiueo”) และ “zaka” หมายถึงลาดชันถนน Irohazaka Winding Road ได้รับการตั้งชื่อไว้ด้วยเนื่องจากมีการรวมกันของโค้งที่คดเคี้ยวไว้ถึง 48 เส้น แต่ละโค้งจะมีข้อความหนึ่งใน 48 ตัวอักษรในตัวอักษรญี่ปุ่น แม้ว่าถนนแคบ ๆ จะได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงต้องมีการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง

Irohazaka ประกอบด้วยถนนสองสายที่สร้างในปีพ. . 2497 และ 2508 ตามลำดับ เป็นถนนสายแรกของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งต่อมาได้เปิดให้บริการฟรี วันนี้ถนนที่มีอายุมากขึ้นเปิดให้บริการเฉพาะการจราจรด้านล่างและมีจุดจอดอยู่ในจุดที่คุณสามารถมองเห็นน้ำตกสองแห่งได้ ถนนที่ใหม่กว่าเปิดให้บริการเฉพาะเส้นทางที่ไปถึงที่ราบสูงอาร์คิดิไลรา ซึ่งอยู่ใกล้กับด้านบนสุดของถนน

ที่ราบสูงมีดาดฟ้าสังเกตการณ์ที่มีทิวทัศน์เหนือ Irohazaka และหุบเขาด้านล่าง กระเช้าช่วยให้ผู้เข้าชมสามารถขึ้นไปสู่ดาดฟ้าชมวิวได้ภายในสามนาที จากที่จอดรถ คุณสามารถเห็นมุมมองของน้ำตก Kegon ร่วมกับทะเลสาบ Chuzenji ได้ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน และคุณสามารถขับรถตามเส้นทางที่มองเห็นสีสันในฤดูใบไม้ร่วงอันงดงามของเส้นทาง Irohazaka นี้ได้

ถนนมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นเส้นทางนี้เป็นที่นิยมของผู้แสวงบุญทางพุทธศาสนาระหว่างทางไปยังทะเลสาบ Chuzenji ซึ่งอยู่ที่ด้านบนของเนินเขานั่นเอง

เส้นทาง : https://goo.gl/JAa3cg

บริการรถนำเที่ยวญี่ปุ่น

6.ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ที่ Kohoku View Line (Kawaguchiko)

ใบไม้เปลี่ยนสี ที่ Kawaguchiko

สามารถชมใบไม้ร่วงที่ยอดเยี่ยมของ Tenka-chaya ซึ่งตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 1,300 เมตรและ Lake Kawaguchi ที่สูง 830 เมตร มีการประดับไฟต้นเมเปิ้ลขนาดใหญ่หกต้น (Momiji Kairo) และต้นเมเปิ้ลที่ถนน Momiji Kaido ที่เรียงรายเป็นแถวระยะทางประมาณ 1.5 กม.

จุดชมใบไม้แดง http://mapio.net/pic/p-45056953/

เส้นทาง : https://goo.gl/2uDw49

7.ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ที่ Kusatsu – Shiga Kogen Road

ใบไม้เปลี่ยนสี ที่ Nikko

วันนี้เราเดินทางไปตามเส้นทางหมายเลข 292 ระหว่าง Kusatsu Onsen ในจังหวัด Gunma และ Shiga Kogen ในจังหวัด Nagano ความสูงของส่วนนี้ของเส้นทางซึ่งถึงจุดสูงสุดถึง 2172 เมตรซึ่งเป็นเส้นทางที่สูงที่สุดในบรรดาเส้นทางชมใบไม้เปลี่ยนสีในประเทศทั้งหมดของญี่ปุ่น นั่นคือเหตุผลที่ทำให้สีของฤดูใบไม้ร่วงในเส้นทางนี้สามารถเห็นได้ชัดตั้งแต่ช่วงต้น ๆ ฤดูกาล

ใกล้จากด้าน Gunma เราสามารถแวะได้ที่ Kusatsu Onsen ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งกำลังสร้างห้องอาบน้ำสาธารณะใหม่ใกล้กับ Yubatake ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในฤดูใบไม้ผลิปี 2013 สีสันฤดูใบไม้ร่วงที่เมือง Kusatsu ยังคงเป็นสีเขียวในช่วงต้นฤดูต่างจากบนเขาที่ผ่านมา แต่ก็เปลี่ยนบรรยากาศไปไม่น้อยจากสีแดงและสีเหลืองของใบไม้ร่วง กับสีน้ำนมสีขาวและสีเหลืองของน้ำ onsen ที่ Kusatu Onsen แห่งนี้นั่นเอง

การเดินทางต่อไปเราจะเดินทางไปตามเส้นทางฟมายเลข 292 ซึ่งจะพาเราไปยังบริเวณที่สูงขึ้นและเห็นทัศนียภาพอันงดงาม ขณะที่เราปีนขึ้นไปบนถนนคดเคี้ยวสู่ยอดเขาสีสันของฤดูใบไม้ร่วงเริ่มหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ จนถึงยอดเขา คุณสามารถหยุดที่จุดพักรถเพื่อชมวิวทิวทัศน์ที่งดงามได้ แต่ไม่สามารถจอดรถระหว่างทางได้เพราะการจราจรคับคั่งเอามากๆ

มันเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมที่มองลงไปที่หุบเขาและมองเห็นสีเขียวเข้มจากต้นไม้ที่เขียวชอุ่มตรงกันข้ามกับสีเหลือง สีส้มและสีแดงจาง จากต้นไม้ผลัดใบ สีเขียวพาสเทลจากพืชไม้ไผ่ขนาดเล็กยากจะบรรยายต้องลองมาสัมผัสเองน่าจะดีที่สุด

เส้นทาง : https://goo.gl/ZihLDu

8.ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ที่ Mackerel Highway

ชื่อยอดนิยม “mackerel highway” ซึ่งสนับสนุนวัฒนธรรมอาหารของเมืองเกียวโตเป็นเวลา 1,500 ปี เราใช้เวลาประมาณสองถึงสามวันจาก Wakasa-cho Fukui ของ Ryoshimachi ไปยังเกียวโตและออกเดินทางไปยังเส้นทางที่ใช้ส่งสินค้าทางทะเลในสมัยก่อน สินค้าเหล่านั้นคือ ปลาทู Sabazushi ใช้ปลาแมคเคอเรลสดใน Wakasa-wan Bay เป็นที่นิยมของคนญี่ปุ่น จนเส้นทางนี้ได้ชื่อว่า “mackerel highway” นั่นเอง

เส้นทาง : https://goo.gl/4Jx3nZ

9.ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ที่ Meta Sequoia Namiki

ใบไม้เปลี่ยนสี ที่ Metasequoia Namiki

ถนนของเขตการปกครอง Makino Koaraji Sawasen วิ่งผ่านพื้นที่ Makino Metasequoia ซึ่งเป็นพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 500 แห่งในระยะทาง 2.4 กิโลเมตร ปกติจะเป็นถนนตามเทือกเขาแต่ที่นี่เป็นพื้นราบ 

แถวของต้นไม้นี้ได้รับการปลูกโดยสมาคมการผลิตไม้ผลของเมือง Makino ให้เป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนโรงเรียนเรียนรู้จากดิน Makino” ในปีพ. . 2519 แต่ด้วยมือของผู้คนในพื้นที่รวมถึงเจ้าหน้าที่สหภาพแรงงาน ทำให้นับจากนั้นทางหลวงจังหวัดเกือบทั้งหมดได้ปลูกต้นสนยักษ์ (Meta Sequoia) เป็นแนวตลอดแนวถนนของจังหวัดเลยทีเดียว

Meta Sequoia เป็นไม้พื้นเมืองของประเทศจีนที่มีการผลัดใบ ชื่อญี่ปุ่น คือ Akebonosugi จากความสูงของต้นที่มีลักษณะใกล้เคียงกับลักษณะของ Sequoia ซึ่งสูงถึง 115 เมตร ใบของต้นซีคัวยายักษ์ (Meta Sequoia) จะงอกในฤดูใบไม้ผลิ เป็นสีสีเขียวสด ฤดูร้อนจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้ม ส่วนในฤดูใบไม้ร่วงจะเป็นสีส้มแดง การมาที่นี่จึงมาได้เกือบทุกฤดู ด้วยมนต์สเน่ห์ของภูมิทัศน์ที่สมมาตรจากต้นไม้สองฝากฝั่งถนน และสีสันของใบไม้ที่เปลี่ยนสีตามฤดูกาลจนกลายเป็นมุมมองที่กลมกลืนกับภูเขาของเมือง แน่นอนมันสามารถสร้างดึงดูดผู้เข้าชมจากทั่วโลกได้

สำหรับผู้ที่เดินทางโดยรถยนต์ ฯลฯ โปรดใช้ที่จอดรถ Makino Pickland (ฟรี)

เส้นทาง : https://goo.gl/QTxLQg

10.ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ที่ Mikuni Pass, Hokkaido

ใบไม้เปลี่ยนสี ที่ Mikuhi Pass

ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติ Daisetsuzan นี่เป็นจุดที่สูงที่สุดเหนือระดับน้ำทะเลของถนนหลวงทั้งหมดในฮอกไกโด ทัศนียภาพอันงดงามของทะเลใบไม้สีเหลืองเบื้องล่างเป็นสิ่งที่น่าทึ่งยิ่งนัก

อุทยานแห่งนี้อยู่ที่ระดับความสูงสูงสุด (ระดับความสูง 1,139 เมตร) ในเส้นทางหลวงของฮอกไกโดที่มี ท้องฟ้าสีฟ้าเข้มของฤดูร้อนตัดกับสีเขียวเข้ม ใบไม้สีเหลืองของฤดูใบไม้ร่วงตัดกับท้องฟ้าสีหม่นๆ แหมยังกะจะไปขึ้นสวรรค์กันเลยทีเดียว คุณไม่ควรพลาดมุมมองที่สวยงามของต้นไม้และสะพาน Matsumi Ohashi แห่งนี้

นอกจากนี้ที่สถานที่พักผ่อนที่อยู่ถัดจากหอสังเกตการณ์ Mikuni Pass กาแฟสดที่รีดด้วยมือและครีมนุ่ม ๆ ของร้านกาแฟ จัดเป็นไฮไลท์ของเส้นทางนี้เลยหล่ะ

เส้นทาง : https://goo.gl/1rCqam

11.ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ที่ Mt.Chokai

ใบไม้เปลี่ยนสี ที่ Mt. Chokai

ภูเขา Chokai เป็นยอดเขาภูเขาไฟที่สวยงามน่าตื่นตาตื่นใจตั้งอยู่บนพรมแดนของจังหวัดอากิตะและจังหวัดยะมะงะตะ ดอกไม้ป่าบานรอบๆเส้นทางจากการควบคุมระดับน้ำในทะเลสาบอัลไพน์ของเขื่อน รวมทั้งหิมะที่ปกคลุมอยู่ตลอดทังปี ทำให้เทือกเขานี้เป็นหนึ่งในการเดินป่าที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น

เส้นทาง : https://goo.gl/6Jy8bT

12.ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ที่ Mt.Daisen

ใบไม้เปลี่ยนสี ที่ Mt.Densai

ภูเขา Daisen (大山, Daisen) เป็นภูเขาไฟขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ทางตะวันตกของจังหวัด Tottori และเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Daisen-Oki มียอดเขาสูง 1,729 เมตรซึ่งสูงที่สุดในเขต Chugoku และรวมอยู่ในรายชื่อของ 100 ภูเขาที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่น ภูเขาไดเซน (Daisen) ไม่ระเบิดเป็นเวลาหลายพันปีมาแล้ว

ในฐานะที่เป็นภูเขาที่โดดเด่นที่สุดและครอบคลุมพื้นที่กว้างไกล Daisen เป็นสัญลักษณ์ทางจิตวิญญาณและเป็นศูนย์กลางของการนมัสการบนภูเขา วัด Daisenji Temple ซึ่งมีอาคารกระจายอยู่ตามแนวลาดชันที่เป็นป่าและเชื่อมต่อกันด้วยเส้นทางของภูเขาที่สร้างขึ้นใกล้กับฐานของภูเขา และเป็นวัดสำคัญทางพุทธศาสนา นอกจากนี้ยังมีศาลเจ้า Ogamiyama ที่สามารถขึ้นปีนเขาต่อไปทางเหนือจากวัดไดเซนจิ

เส้นทาง : https://goo.gl/Dh5QRM

13.ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ที่ Mt.Hakkoda, Aomori

ใบไม้เปลี่ยนสี ที่ Mt.Hakkoda Aomori

ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ที่เทือกเขา Hakkoda สามารถมองเห็นใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วงเป็นสีแดงและสีเหลืองที่สวยงามของต้นเมเปิ้ล นอกจากจะได้ชมใบไม้แล้ว ยังสามารถพายเรือล่องแก่งได้ ผู้เข้าชมจำนวนมากมาในช่วงฤดูการระบายสีของธรรมชาติ ซึ่งจะพีคสุดในช่วงปลายเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม กระเช้าฮาโกดะ Hakkoda Ropeway ช่วยให้ผู้เข้าชมสามารถไต่ยอดเขาทาโมยาชิ (Tamoyachidake) ในส่วนของยอดเขาทางเหนือ (North Hakkoda) ความสูง 1,320 เมตร (4,330 ฟุต)

มุมมองจาก ropeway เป็นวิวที่สวยงามอย่างยิ่งสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสี ในวันที่มีแสงแดดแจ่มใสเราสามารถมองเห็นที่ราบ Tsugaru, Mutsu Bay และ Hokkaido ได้จากมุมมองจากสถานีของอุทยาน และนี่คือสุดยอดเส้นทางเดินป่าสีทองคำของเทือกเขา Hakkoda โดยจะนำท่านไปสู่ดาดฟ้าสังเกตการณ์มัสซึเบย์ (Mutsu Bay) และยอดเขาทาโมยาชิ (Tamoyachi Marsh) เป็นการเดินป่าที่ยอดเยี่ยมในวันที่มีแสงแดด แนะนำอย่างยิ่งสำหรับช่างภาพที่ต้องการเก็บภาพสีสันจากธรรมชาติอันงดงาม

เส้นทาง : https://goo.gl/12ZeJn

สะพาน Jogakura Ohashi

สะพาน Jogakura Ohashi เป็นสะพานโค้งที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นที่มีความยาว 360 เมตร (1,181 ฟุต) ความยาวระหว่างส่วนโค้งของซุ้มประตูจะขยายไปถึง 255 . (836 ฟุต) ทำให้ยาวที่สุดในญี่ปุ่น ความสูง 120 เมตรของใบไม้ร่วงของต้นบีชโอ๊ก เมเปิ้ลและไม้เรียว บนหุบเขา Jogakura Valley ช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมของฤดูอยู่ที่ประมาณกลางเดือนตุลาคม

Jogakura Gorge

เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Towada Hachimantai, หุบเขา Jogakura ยังคงมิได้ถูกสัมผัสจากภายนอกเป็นเวลาตลอด 7 เดือนของทุกปี (พฤศจิกายนถึงพฤษภาคม) หุบเขาจะจมอยู่ในหิมะหลายเมตร น้ำในหุบเขามีความเป็นกรด ทำให้ปลาไม่สามารถอยู่อาศัยได้ หุบเขาเป็นที่น่าสนใจเพราะสภาพที่ไม่เอื้ออำนวยตามธรรมชาติ และเรียกได้ว่าเป็น Unseen ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว

ทะเลสาบ Tsuta Numa

Tsuta Numa เป็นหนึ่งในเจ็ดของ Tsuta Seven Lakes (Tsuta Nana Numa) ทะเลสาบถูกล้อมรอบด้วยป่าบีชลึก ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงผู้เข้าชมจำนวนมากจะมาชมความสวยงามและความประทับใจของทะเลสาบโดยภูเขาที่มีสีสันสดใส ช่างเป็นวิวที่น่าไปเยี่ยมชมยิ่งนัก

14.ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ที่ Mt.Norikura

ใบไม้เปลี่ยนสี ที่ Norikura

ภูเขา Norikuradake (乗鞍岳, Norikuradake) เป็นภูเขาที่ระดับความสูง 3,026 เมตร ภูเขาไฟตามแนวพรมแดนระหว่างจังหวัดนะงะโนะและจังหวัดกิฟุ Mount Norikuradake หนึ่งในเทือกเขาที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่น 100 แห่งและเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในภาคใต้ของญี่ปุ่น และเป็น 1 ในสามของเทือกเขา Northern Alps ของประเทศญี่ปุ่น เป็นจุดหมายปลายทางการเดินป่าที่รู้จักกันดีและเป็นภูเขาที่ง่ายต่อการขับรถขึ้นไปด้วยรถโดยถนนทอดยาวจนเกือบถึงยอดเลยทีเดียว

เส้นทาง : https://goo.gl/56TASV

15.Mt.Tokachi, Biei

ใบไม้เปลี่ยนสี ที่ Mt.Tokachi Biei

ภูเขา Tokachi (十勝岳, Tokachidake) เป็นภูเขาไฟที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติ Daisetsuzan Hokkaidō ประเทศญี่ปุ่น เป็นภูเขาไฟที่สูงที่สุดของกลุ่มภูเขาไฟโทคาชิ เป็นหนึ่งใน 100 ภูเขาที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น

มีเส้นทางเดินป่า 4 เส้นทางที่จะไปถึงจุดสูงสุดของ Tokachidake ด้านล่างกระท่อมเป็นที่ตั้งแคมป์และน้ำพุร้อนที่เป็นธรรมชาติ (gensen) การขับรถในเส้นทางนี้ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็ให้ประสบการณ์ความงามของวิวไม่แพ้เส้นทางอื่นในญี่ปุ่นเลยทีเดียว

เส้นทาง : https://goo.gl/brjiR4

16.Naruko Gorge

ใบไม้เปลี่ยนสี ที่หุบเขา Naruko

Naruko Gorge (鳴子峡, Narukokyō) เป็นหนึ่งในหุบเขาที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในเขตโทโฮกุ (Tohoku) ตั้งอยู่ในจังหวัดมิยากิ ทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 70 กิโลเมตรจากเซนไดและห่างจากเมืองน้ำพุร้อนขนาดเล็กของนารูโกะ (Naruko Onsen) เพียง 2 กิโลเมตร ทุกๆปีในช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ช่องแคบเปลี่ยนเป็นจุดสีแดง สีเหลือง สีส้ม ในฤดูใบไม้ร่วงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาค

หุบเขาทอดยาวประมาณสองกิโลเมตรทางตะวันออกไปตะวันตก พื้นที่ที่ดีที่สุดสำหรับการชมใบไม้ร่วงคือบริเวณ Rest House Narukokyo ทางด้านตะวันตกของหุบเขา ท่านสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่มีชื่อเสียงของสะพาน Ofukazawa ได้จากดาดฟ้าสังเกตการณ์ถัดจากที่พัก

ตามถนนสายหลักมีที่จอดรถฟรีหลายแห่งและมีที่พักขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้กับร้านอาหาร Narukokyo Resthouse เส้นทางที่สูงชันไม่กี่แห่งนำทางจากถนนไปยังก้นหุบเขาซึ่งเส้นทางเดินเลียบแม่น้ำ Naruko Gorge อันตระการตาจะวิ่งไปตามความยาวของหุบเขา เส้นทางเดินนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการชมความงามของใบไม้แดงในหุบเขา

อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีการปิดจนกว่าจะมีคำบอกกล่าวเพิ่มเติม เนื่องจากอันตรายจากก้อนหินที่ตกลงมาและแผ่นดินถล่ม 

เส้นทาง : https://goo.gl/CkSZcr

17.Nichien Momiji Line

ใบไม้เปลี่ยนสี ที่ Tochigi

ถนน 28.5 กม. เชื่อมโยง Shiobara Onsen กับ Kinugawa และ Kawaji Onsen มีต้นไม้เมเปิ้ลหลายต้นอยู่ตามถนนและสามารถชมทางหลวง Kogen ได้ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นน้ำตกที่สวยงาม เช่น Taiko-oroshi-no-taki Warterfalls และ Shira-taki Warterfalls

เส้นทาง : https://goo.gl/Zj3Tv6

18.Niseko Panorama Line

ใบไม้เปลี่ยนสี ที่ Niseko

ตามเส้นทางนี้คุณสามารถเพลิดเพลินกับการชมทิวทัศน์ต่างๆเช่นภูเขา Yotei, เทือกเขา Niseko-Annupuri, ทะเลสาบ Shinsen และทะเลญี่ปุ่น ส่วนจาก Rusutsu ไป Iwanai ผ่าน Niseko เป็นถนน Prefectural 66 ซึ่งมักเรียกกันว่าPanorama Lineจุดสูงสุดของเส้นทางคือ Chisenupuri Pass ซึ่งเป็นเขตแดนระหว่าง Rankoshi และ Kyowa และมีทะเลสาบรวมทั้งบึงอีกหลายแห่ง เช่น Shinsen-numa และ Naganuma กระจัดกระจายอยู่ตลอดเส้นทางนี้เลย

ผู้คนจำนวนมากเข้ามาเยี่ยมชมที่นี่ในช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสีของปีเท่านั้น เพื่อเพลิดเพลินกับการชมเมเปิ้ลและอาหารท้องถิ่นอันโอชะ  คุณสามารถมองเห็นทัศนียภาพอันสวยงามอย่างแท้จริง เช่น แหลม Shakotan ที่ยื่นออกมาสู่น้ำทะเลสีฟ้าของทะเลญี่ปุ่น

ความยาวประมาณ 45 กม. และ 50 นาที

เส้นทาง : https://goo.gl/9dcZ89

19.Tateyama Kurobe Alpine Route

ใบไม้เปลี่ยนสี ที่ Japan Alps

เส้นทาง Tateyama Kurobe Alpine Route (เส้นทาง Tateyama Kurobe Alpen) เป็นเส้นทางที่ไม่เหมือนใครและน่าตื่นเต้นผ่านทาง Northern Japan Alps ซึ่งมีเส้นทางการเดินทางหลายรูปแบบรวมถึงรถเคเบิลคาร์ รถประจำทาง รถรางและทางรถไฟ ซึ่งสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี พ.. 2514 เส้นทางนี้เชื่อมต่อเมืองโทยาม่าในจังหวัดโทะยะมะกับเมืองโอมาจิที่จังหวัดนะงะโนะ

ส่วนระหว่างสถานี Tateyama และ Ogizawa ปิดให้บริการสำหรับยานพาหนะส่วนตัว และปิดตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงกลางเดือนเมษายนของทุกปี

ฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงดึงดูดผู้เข้าชมด้วยทิวทัศน์ที่สวยงามดอกอัลไพน์ (โดยเฉพาะช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม) และใบไม้ร่วง สีสันของธรรมชาติมักจะดีที่สุดรอบๆ Murodo และ Daikanbo ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคมและค่อยๆกระจายลงมาตามเนินเขาถึงระดับที่ต่ำลงตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน

การมาที่นี่ในช่วงต้นฤดูจะเป็นการดีที่สุด และท่านสามารถชมกำแพงน้ำแข็งร่วมกับสีสรรของฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงามได้

เส้นทาง : https://goo.gl/rReHiH

เที่ยวทั่วไทยไปไกลทั่วโลก

20.Tamagawa Onsen, Hachimantai

ใบไม้เปลี่ยนสี ที่ Tamagawa Onsen

หนึ่งในออนเซนที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น Tamagawa มีน้ำที่เป็นกรดมากที่สุดในประเทศโดยมี apring ที่ pH 1.1! นอกจากนี้ยังเป็นช่วงเดียว คือ ฤดูใบไม้ผลิเดียวที่มีการไหลมากที่สุด (8000-12000 L / min) การเดินทางสู่ออนเซนจะทำโดยรถประจำทาง หรือ รถจากสถานี Tazawako แต่ก็ยังสามารถมาจากทางทิศตะวันออก (Hachimantai area ใน Morioka-ken) หรือจากทางเหนือ (Aomori-ken) เรียวกังมีขนาดใหญ่มักมีป้ายรถประจำทางอยู่ด้านหน้าทางเข้าและมีที่จอดรถขนาดใหญ่

ถัดจากเรียวกังเป็นเส้นทางท่องเที่ยวธรรมชาติขนาดเล็กซึ่งจะพาผู้เข้าชมไปสู่ฤดูใบไม้ผลิ คุณสามารถทำกิจกรรมต่างๆบนภูเขาไฟได้ มีผู้คนจำนวนมากนั่งอยู่บนเสื่อขนาดเล็กบนพื้น เนื่องจากบริเวณที่มีรังสีกัมมันตภาพรังสีเป็นจำนวนมากแต่ดูเหมือนว่าจะมีความเชื่อว่าสามารถรักษาโรคได้

คนส่วนใหญ่จะอยู่ที่นั่นเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เพื่อทำการรักษา (โดยทั่วไปไม่มีใครอาบน้ำ)

Hachimantai (八幡平) เป็นพื้นที่ที่เป็นภูเขาในภาคเหนือของ Akita และจังหวัด Iwate ซึ่งเป็นพื้นที่ทางตอนใต้ของอุทยานแห่งชาติ Towada-Hachimantai ภูมิภาคนี้ห่างจากเมืองต่างๆของญี่ปุ่นออกไปและมีแหล่งน้ำพุร้อนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศและทิวทัศน์ของภูเขาไฟที่จะทำให้ผู้เดินทางที่ต้องการเที่ยวชมชนบทของญี่ปุ่นมีความสุข

เส้นทาง : https://goo.gl/kahxeT

เป็นไงบ้างครับ กับเส้นทาง ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ทั้งหมดที่เรานำมาเสนอ ซึ่งดูแล้วการเดินทางส่วนใหญ่ค่อยข้างไปยากพอสมควร ถ้าท่านจะต้องต่อรถไฟ เปลี่ยนหลายๆขบวน ยิ่งมีคนสูงอายุหรือเด็กร่วมเดินทางด้วย ยิ่งไม่ค่อยสะดวก ซึ่งอาจทำให้ท่านไม่ได้มีโอกาสได้ชมความงามที่แต่งแต้มโดยธรรมชาติอย่างเต็มอิ่ม ถ้าต้องการเพิ่มความสะดวกสบายและเพิ่มเวลาในการมีความสุขในการชมความงามอย่างเต็มอิ่ม จะใช้ บริการรถนำเที่ยวพร้อมคนขับ ก็เป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อยครับ^^

ใบไม้เปลี่ยนสีฮาโกเน่ ทำเลใกล้โตเกียว เที่ยวง่ายๆ แค่ 2 ชั่วโมง

ใบไม้เปลี่ยนสีฮาโกเน่
หลายๆคนอาจจะเคยมาเที่ยวญี่ปุ่นแล้วและอาจเคยมาที่ ฟูจิเพื่อชมวิวภูเขาแล้ว ใบไม้เปลี่ยนสีฮาโกเน่ ก็เป็นอีกที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาดเนื่องจากการเดินทางที่ใกล้และมีสถานที่ให้เที่ยวมากมายไม่แพ้ฟูจิและทะเลสาบคาวากูจิโกะ ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็มีจุดที่เป็นไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดเช่นกัน ตามดูกันเลยครับ

1.ชมงานศิลป์ และ ใบไม้เปลี่ยนสีฮาโกเน่ ที่ Hakone Museum of Art

ใบไม้เปลี่ยนสีฮาโกเน่ ที่ Museum of Art

มุ่งหน้าไปที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Hakone ซึ่งมองเห็นทัศนียภาพที่งดงามของสวน moss และสวน Sekirakuen Garden ที่นี่ Sekirakuen เป็นสวนแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นซึ่งตั้งอยู่ติดกับสวนมอส นี่เป็นจุดเด่นของพิพิธภัณฑ์ศิลปะ Hakone ซึ่งเป็นจุดเด่นของเมเปิ้ลและต้นไม้ที่มีการเปลี่ยนสีอื่น ๆ ซึ่งครองความงามสูงสุดในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

คุณสามารถเดินไปตามเส้นทางหินคดเคี้ยวผ่านเงาของต้นเมเปิ้ลที่ปลูกในสวนมอสส์ คุณจะพบกับทางเดินที่เต็มไปด้วยใบไม้แดงหล่นลงเต็มทางเดิน! ที่จะมีเสน่ห์และความคิดที่ยอดเยี่ยมในการสำรวจธรรมชาติที่คุณพบในบริเวณพิพิธภัณฑ์นอกจากนี้ผมขอแนะนำให้คุณดูคอลเลกชันศิลปะภายในพิพิธภัณฑ์

ช่วงเวลาแนะนำ : กลางเดือนพฤศจิกายน

พิกัด : https://goo.gl/maps/m5QU5b62ykA2

Official Website : http://www.moaart.or.jp/hakone/

2.ล่องเรือเก็บภาพ ใบไม้เปลี่ยนสีฮาโกเน่ ที่ Ashi Lake

ล่องเรือชมใบไม้เปลี่ยนสี ที่ ทะเลสาปอะชิ

ทะเลสาป Ashi เป็นทะเลสาปที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ภูเขาไฟฟูจิด้านหลังเป็นทะเลสาบเป็นสัญลักษณ์ของเมืองฮาโกเนะ ในความเป็นจริง Ashinoko เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับการชมยอดเขาหิมะปกคลุม ภูเขาไฟฟูจิ มุมมองของภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ ฟูจิเหนือทะเลสาบ Ashi งดงามอย่างแท้จริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งใน ฤดูใบไม้ร่วง เมื่อบริเวณโดยรอบของป่าปกคลุมไปด้วยสีสันสดใส คุณสามารถทัวร์ฤดู ใบไม้เปลี่ยนสีฮาโกเน่ ที่สวยงามโดยการล่องเรือชมวิว จะทำให้คุณมีความสุขมากที่ได้เห็น Mount Fuji และสีฤดูใบไม้แดงรอบ ๆ Ashinoko และดีกว่าการเดินเล่นในสวน

บนเรือโจรสลัดที่มีรูปเรือ Hakone และมันทำให้ผมรู้สึกเหมือนพิ่งกลับมาในยุคกลางมันเป็นช่วงเวลาที่น่าทึ่งที่ฉันยังคงจำได้อยู่ดี นอกจากนี้คุณยังสามารถเดินทางไปยัง Haokne Detached Palace Garden, Moto-Hakone และ Hakone Checkpoint เพื่อชมทัศนียภาพอันงดงามของทะเลสาบร่วมกับ Mt. ฟูจิ

ช่วงเวลาแนะนำ : กลางเดือนพฤศจิกายนเป็นฤดูยอดนิยมเพื่อให้เห็นภาพใบไม้ร่วงที่มีสีสันสดใสที่นี่

พิกัดhttps://goo.gl/maps/8rN3yGNok2L2

Official Website : –

บริการรถนำเที่ยวญี่ปุ่น

3.ทางเดินใบไม้แดง ที่ Choanji Temple

ทางเดินใบไม้แดง ที่ Choanji Temple

วัด Choanji สร้างขึ้นในปีพ. . 1356 ที่ฐานของเนินเขาและตั้งอยู่ใกล้ป้ายรถเมล์ Sengoku ทางตอนเหนือของเขต Susuki Fields เป็นหนึ่งในสถานที่โปรดของฉันที่ได้เห็น ใบไม้เปลี่ยนสีฮาโกเน่ เหมือนสีที่ตกลงบนพื้น ชวนจิเป็นวัดที่มีขนาดเล็กกว่าวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองเกียวโต แต่ความงามที่ซ่อนอยู่ของวัดนี้จะมีเพียงครั้งเดียวในหนึ่งปีและนั่นก็คือช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

มีรูปปั้นหินที่สวยงามหลายสิบรูปของเหล่าสาวกของพระพุทธเจ้ากระจัดกระจายอยู่บริเวณวัด ใบหน้าของพวกเขาดูแปลก แม้ว่าการโพสต์ท่าทางของรูปปั้นนั้นจะสวยแต่ก็ดูแปลกๆอยู่พอสมควรในวิสัยปกติ บริเวณวัดมีความอุดมสมบูรณ์ของต้นไม้ผลัดใบหลายแห่งพร้อมกับไผ่งาม

ช่วงเวลาแนะนำ : ต้นถึงกลางเดือนพฤศจิกายนเพื่อดูใบไม้ร่วงเนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด

พิกัด : https://goo.gl/maps/TrpCNdceYfC2

Official Website : –

4.ใบไม้เปลี่ยนสีฮาโกเน่ ที่ Hakone Motosumiya Shrine

ศาลเจ้าจักรพรรดิ Komagatake

ต้นกำเนิดของศาลเจ้าประมาณ 2400 ปีก่อนจักรพรรดิ Takaaki Godai จักรพรรดิตอนนั้นคือ Kiyoshiuranai โดยได้ย้ายเอาศาลของจักรพรรดิองค์เดิม (Itoku) ไป Kamiyama ที่วัดยอดเซินเจิ้น Komagatake และเปิดเป็นศาลเจ้า Taketo Toshiyuki โดย GenToshi (Tianjin HimoRogi) การเริ่มต้นในพิธีกรรมของ Komagatake เป็น Tianjin Iwasakai (Iwasaka Tianjin)

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แสงจากพระอาทิตย์ส่องแสงดึงดูดความศรัทธาแห่งจักรพรรดิ และคนธรรมดรุ่นต่อ ๆ ไปไม่ได้ตัดร่องรอยของผู้ที่นับถือพุทธศาสนิกชนของเคียวโกะ จนพระพุทธศาสนาเข้ามาในยุคจักรพรรดิ 29 Kinmei (Kinme) ของ รัชกาลจักรพรรดิได้กลายเป็นที่ที่มีชื่อเสียงเป็นสถานที่ใช้สอบจิตวิญญาณ (Shusons) ฯลฯ และพยายามดำรงค์อยู่ของลัทธิวิญญาณ

ปัจจุบันศาลเจ้าฮาโกเนะเป็นศาลเจ้าซึ่งสร้างศาลเจ้าบนฝั่งของ Ashinoko ที่เชิงเขาศาลเจ้า Motomiya แห่งการประชุมสุดยอดครั้งนี้เป็น Okumiya ซึ่งสร้างขึ้นมาใหม่เมื่อปี 1964 Toshitsutsumi Kojiro บริจาคตั้งแต่นั้นพิธีกรรมคือ Imuosamu และมีการกราบไหว้บูชาตลอดสี่ฤดูกาล

แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ม้าหินหิน ปกคลุมด้วยเชือกที่ถูกขโมยเรียกว่าโคตรของโคตรม้า กล่าวกันว่าเป็นศิลาก้อนหินที่พระเจ้าทรงเข้ากับฮาคุบะ

หลุมบนหินเป็นร่องรอยของกีบของม้าที่ขี่ม้าและน้ำที่สะสมอยู่ในรูบอกว่ามันไม่เคยเหี่ยวเฉาแม้โดยหินแปลกๆที่มืด

นอกจากนี้ทางด้านขวาของถนนจะมีม้าหินซึ่งทำให้ Hakuba เชื่อมั่นในสิ่งนั้น ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเจ็ดคนของเทือกเขานี้

ช่วงเวลาแนะนำ : ต้นถึงกลางเดือนพฤศจิกายน

พิกัด : https://goo.gl/maps/NpQ1z2oyRb52

Official Website : http://hakonejinja.or.jp

5.กระเช้าขึ้นสู่ศาลเจ้าจักพรรดิ์ Komagatake Ropeway

กระเช้าขึ้นศาลเจ้าจักรพรรดิ Komagatake

จาก Hakone ที่ทะเลสาบ Hakone Ashinoko จนถึงยอดเขา Hakone Komagatake เราเชื่อมต่อยาว 1,783 เมตรและใช้เวลา 7 นาที ในการประชุมสุดยอดมีดาดฟ้าสังเกตการณ์และ Hakone Motomiya ซึ่งกลายเป็นจัตุรัสขนาดใหญ่

ใบไม้เปลี่ยนสีฮาโกเน่ ที่มีมุมมองจากยอดเขากระจายไปยัง Hakone ในมุมมองแบบพาโนรามาเช่นสวนขนาดเล็กที่อยู่ใจกลางทะเลสาบ Ashi ฟุตตระหง่าน Mount Fuji ในทิศตะวันตกเฉียงเหนือยัง Shichito Izu ห่างจาก Suruga Bay Shonan coast panorama ขนาดใหญ่ได้รับ นำไปใช้กับ Boso Peninsula

ช่วงเวลาแนะนำ : ต้นถึงกลางเดือนพฤศจิกายน

พิกัด : https://goo.gl/maps/kGqG6AXgXo92

Official Website : http://www.princehotels.co.jp/amuse/hakone-en/watch/ropeway.html

6.ใบไม้เปลี่ยนสีฮาโกเน่ ที่อุทยาน Daikanzan

ใบไม้เปลี่ยนสีฮาโกเน่ ที่ Daikanzan

Cr. Pic Daikanzan Red leaf credit : toys 51030023 at Flickr

Daikanzan เป็นฮิลล์ในท้องถิ่นที่มีทัศนียภาพที่น่าทึ่งของเมือง Mt. Fuji และทะเลสาบ Ashinoko ซึ่งคุณสามารถเข้าถึงยอดเขาได้จาก 2 วิธี ถนนสายเก่า และ2 ทางด่วนที่ต้องจ่ายค่าผ่านทาง Hakone Turnpike ซึ่งได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็นทางด่วนมาสด้าในเวลาต่อมา

วิธีนี้จะพาคุณขึ้นเนินเขาที่มีมุมกวาดไปพร้อมกับเส้นทางที่ยาวตรงที่พวกเขาใช้สำหรับการแข่งขัน ผมเชื่อว่าคุณสามารถใช้ถนนนี้ขึ้นไปด้านบนด้วยราคา 750 เยน ถ้าคุณต้องการบันทึกเภาพและเก็บสถานที่บริเวณทะเลสาปก่อนคุณก็สามารถทำได้ใน Hakone และเลี้ยวซ้ายและใช้ถนนนี้ไปด้านบน

ช่วงเวลาแนะนำ : ต้นถึงกลางเดือนพฤศจิกายน

พิกัด : https://goo.gl/maps/LcDjcYgD1uA2

Official Website : –

วางโปรแกรมฟรี

7.นั่งรถไฟชม ใบไม้เปลี่ยนสีฮาโกเน่ ที่ Hakone Tozan Railway

นั่งรถไฟชมวิว ใบไม้เปลี่ยนสีฮาโกเน่

นี่คือรถไฟภูเขาแห่งเดียวในประเทศญี่ปุ่น รถไฟออกจากสถานี Hakone-Yumoto (ที่ 96 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล) และใช้เวลาประมาณ 40 นาทีเพื่อไปถึงจุดสุดท้ายสถานี Gora (ที่ 541 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล)

เราสามารถเปลี่ยนขบวนโดยสารไปยังในตัวเมืองฮาโกเน่และชมวิว ใบไม้เปลี่ยนสีฮาโกเน่ ซึ่งเป็นประสบการณ์พิเศษที่สามารถเพลิดเพลินได้เฉพาะกับรถไฟ Hakone Tozan อย่าพลาดครับใบไม้แดงปีไหนสะดวกมาเจอกันครับ

ช่วงเวลาแนะนำ : ต้นถึงกลางเดือนพฤศจิกายน

พิกัด : Sounzan StationOdawara Station

Official Website : http://www.hakone-tozan.co.jp/station/

8.วิวทุ่งหญ้าสีทอง ที่ Sengoku Harimura

วิวทุ่งหญ้าสีทอง ที่ Sengoku Harimura

Sengokuhara เป็นชื่อสถานที่ “Sengoku Harimura” เป็นพื้นที่ราบเชิงเขาที่ใช้ในการเพาะปลูกพืชพันธ์ธัญญาหานและเนื่องจากดินขี้เถ้าภูเขาไฟและพื้นที่ชุ่มน้ำจึงเป็นพื้นที่ๆเหมาะในการเพาะปลูกดังกล่าว

วิวแบบนี้เป็นที่ชื่นชอบของคนที่ชอบภาพแนวภูมิทัศน์ที่สวยงาม แต่ในสมัยก่อนมันเป็นพื้นที่เพาะปลูกและแหล่งอาหารที่สำคัญของคนในพื้นที่เลยครับ

ช่วงเวลาแนะนำ : ต้นเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป

พิกัด : https://goo.gl/maps/iq4RxpeH3282

Official Website : http://www.town.hakone.kanagawa.jp/index.cfm/8,267,37,156,html

9.แวะทานขนม น้ำชา ชมใบไม้แดง ที่ Amazada chaya

แวะทานขนม น้ำชา ชมใบไม้แดง ที่ Amazada chay

Cr. Pic Daikanzan Red leaf credit : toys 51030023 at Flickr

ถ้าคุณมาที่ Hakone ในฤดูใบไม้ร่วงเราขอแนะนำให้คุณไปที่ Amazake Chaya ซึ่งเป็นบ้านชาสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม คุณสามารถเพลิดเพลินกับ “Amazake (เครื่องดื่มร้อนที่ทำจากข้าวหมักไม่ใช่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์)” และเค้กข้าว

ร้านอยู่ประมาณกลางๆเส้นทาง บนถนน โตไคโดะสายเก่า จากจุดลงเรือทะเลสาปอะชิเรียบตามแม่น้ำ Sukumo ไปจนถึงที่ว่าการอำเภอฮาโกเน่

ช่วงเวลาแนะนำ : ต้นเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป

พิกัด : https://goo.gl/maps/o73RUL48hvv

Official Website : http://www.amasake-chaya.jp/

10.เปลี่ยนบรรยากาศ ฟังเสียงน้ำตก ที่ Chisuji Falls

เปลี่ยนบรรยากาศ ฟังเสียงน้ำตก ที่ Chisuji Falls

ตั้งอยู่ในลำธารตอนบนของแม่น้ำ Seribin หินโขดหินสูงประมาณ 3 เมตรกว้าง 25 เมตรและแบ่งออกเป็นหลายสายเพื่อที่น้ำจะตกลงไปในรูปแบบ interdigitated จึงเรียกว่ามีนี้ ชื่อ. เมเปิ้ลและเมเปิ้ลหลายแห่งตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงและใบไม้เปลี่ยนสีจะงดงามแมงปอบินรอบเดือนกรกฎาคมและคุณสามารถมองเห็นภาพที่ยอดเยี่ยมและเสียงนำ้ตกกระทบหิน เป็นอะไรที่อาจเสียไป 1 วันเดินทางกับสถานที่แห่งนี้ครับ

น้ำตกแห่งนี้ไม่เคยรู้จักมานานหลายปี แต่ Kyoso Enomoto ผู้ก่อตั้งยุค Taisho “Mikawaya Ryokan” ต้องการแจ้งให้ทราบถึงน้ำตกที่สวยงามนี้

และมีการปรับปรุงถนนและป้ายทางเข้าให้สะดวกขึ้น จึงไม่เป็นการยากที่จะเข้าถึงความงามของสถานที่แห่งนี้

ช่วงเวลาแนะนำ : ต้นเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป

พิกัด : https://goo.gl/maps/jtLh8DRpeyj

Official Website : http://www.hakone.or.jp/528

11.มนต์สเน่ห์สะพานเหล็ก ที่ Izayama Iron Bridge

มนต์สเน่ห์สะพานเหล็ก ที่ Izayama Iron Bridge

สะพานเหล็กนี้เป็นหนึ่งในความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการก่อสร้างรถไฟภูเขา การก่อสร้างได้ดำเนินการกับ 43 นั่งร้านประกอบจากเตียงแม่น้ำไปยังสถานที่ก่อสร้างเพราะภูมิประเทศที่เป็นเรื่องยากมากที่จะสร้างสะพาน

ส่วนหนึ่งของสะพานรถไฟ Tenryu River ของทางรถไฟจ่ายลงถูกเบี่ยงเบนไปเนื่องจากขาดวัสดุภายใต้สงครามโลกครั้งที่หนึ่งและสะพานเสร็จสมบูรณ์ใน Taisho ในปี 1996 มูลค่าทางประวัติศาสตร์นี้ได้รับการยอมรับและได้รับการอนุมัติเป็นสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้โดย สำนักวัฒนธรรมเมื่อปี พ.. 2542

สะพานนี้อยู่ในเทือกเขาเป็นวิวจากรถไฟ Hakone Tozan อย่าพลาดการเดินทางเพราะมันเป็นช่วงเวลาที่พิเศษมากๆ

ช่วงเวลาแนะนำ : ต้นเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป

พิกัด : https://goo.gl/maps/GGBnRSBrpjs

Official Website : http://www.hakone-tozan.co.jp/sp/index.php

12.กระเช้าที่มีชื่อเสียงที่สุดในย่านนี้ Hakone Ropeway

กระเช้าที่มีชื่อเสียงที่สุดในย่านนี้ Hakone Ropeway

Hakone Ropeway (箱根ロプウエイ) เป็นส่วนหนึ่งของ Hakone Round Course ซึ่งเป็นเส้นทางยอดนิยมในการเยี่ยมชม Hakone เชื่อมต่อกับสถานี Sounzan (ที่ปลายทางของ Hakone Tozan Cablecar) พร้อมกับสถานี Togendai (ที่ฝั่งทะเลสาบ Ashinoko) และหยุดที่สถานี Owakudani และ Ubako ระหว่างทาง เส้นทางหลวงจะครอบคลุมโดย Hakone Free Pass

กอนโดลา (ropeway) ออกทุกนาทีและพอดีกับรอบสิบคนแต่ละ การเดินทางระยะทางยาวทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที ผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพของแหล่งน้ำพุร้อนซัลฟูริกที่ใช้งานอยู่ของหุบเขาโอวาคันดานี่ระหว่างเมือง Sounzan และเมืองโอวาคูดานิและเมืองไทเก็นได นับว่าเป็นสถานที่ชม ใบไม้เปลี่ยนสีฮาโกเน่ ที่สวยที่สุดแห่งนหนึ่งเลย

(ถ้าสามารถมองเห็นได้) จำเป็นต้องลงกระเช้าที่โอวาคูดานี่ แต่ไม่จำเป็นต้องลงที่ Ubako

ช่วงเวลาแนะนำ : ต้นเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป

พิกัด : https://goo.gl/maps/J55B4NT9DYt

Official Website : http://www.hakoneropeway.co.jp/station/tohgendai.html

13.สถานที่แปลกตาคนไทย กับวิวหมู่บ้านนรก Owakudahi Valley

สถานที่แปลกตาคนไทย กับวิวหมู่บ้านนรก Owakudahi Valley

Owakudani อยู่ที่ระดับความสูง 1,040 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลกิจกรรมภูเขาไฟยังคงดำเนินต่อไปที่นี่และก๊าซภูเขาไฟจะปะทุขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นระยะ ๆ เป็นสถานที่ที่อันตรายสำหรับผู้ที่เป็นโรคหอบหืดหรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจและปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ เป็นสถานที่ชมวิวที่ยอดเยี่ยมซึ่งได้รับเลือกจาก 50 ที่ที่มีทิวทัศน์อันงดงามของเมืองคานากาว่า เป็นจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและน่าไปอย่างยิ่งครับ

ช่วงเวลาแนะนำ : ต้นเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป

พิกัด : https://goo.gl/maps/B4HR9R5Ggur

Official Website : http://www.town.hakone.kanagawa.jp/index.cfm/8,257,37,156,html

เที่ยวทั่วไทยไปไกลทั่วโลก

ไฮไลท์ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ทริปเดียวเก็บไม่ครบ ก็หลบงานมาหลายๆครั้งก็ได้นะ

ไฮไลท์ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น

รายชื่อสถานที่ไฮไลท์ที่ EIYAIDA แนะนำมีดังนี้

ไฮไลท์ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ที่เราแนะนำในครั้งนี้ ครอบคลุมพื้นที่หลายภูมิภาคของญี่ปุ่นเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสีสรร และอาการที่กำลังอบอุ่น ไม่ร้อน ไม่หนาวจนเกินไป

ข้อแรกอาจไม่ใช่ใบไม้เปลี่ยนสี แต่เป็นทุ่งดอกไม้ที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา มีการปลูกสลับสีให้มีสีสรร สวยงาม และน่ามาเที่ยวยิ่งนัก ส่วน 5 สถานที่ที่เหลือนั้นใบไม้เปลี่ยนสีของแน่ๆครับ มีที่ไหนบ้างที่เรายกให้เป็นไฮไลท์ ไปดูกันเล้ย

ทุ่งดอกไม้สลับสีที่บิเอะและฟูราโน่ (Fall Flower Fields of Furano)

Highlight ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น

ในช่วงเดือนกันยา ไปจนถึงกลางตุลา ไม่ควรพลาดเลยครับ เพราะหลายๆคนอาจจะนึกถึงแต่ใบไม้เท่านั้นที่เปลี่ยนสี แต่ทุ่งดอกไม้ที่นี่บอกได้คำเดียวครับ ปังมาก

ฮิตาชิซีไซด์พาร์ค (Kochia @Hitachi Seaside Park)

ไฮไลท์ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น

ช่วงปลายเดือนกันยา จนถึงประมาณสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลา เป็นพาร์คที่น่าไปเที่ยวเอามากๆ ด้วยพื้นที่ๆเป็นเนินเขา และ ทุ่งหญ้าใกล้กับทะเล จึงมามุมที่สวยๆ ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ ใบไม้และ ท้องฟ้า ช่างเป็นอะไรที่ลงตัวไม่ใช่น้อยเลยครับ

เมเปิ้ลแดงที่ทะเลสาปคาวากุจิโกะ (Mt. Fuji and Lake Kawaguchi Maples)

เมเปิ้ลแดงที่คาวากุจิโกะ

ประมาณเดินพฤศจิกายนของทุกปี ปฏิเสธไม่ได้ว่าทะเลสาปแห่งนี้เป็นไฮไลท์ของเดือนนี้เลย ที่เที่ยวแถบนี้มีหลากหลายไม่ใช่น้อย ถ้าคุณไปเยือนจังหวัดยามานาชิในยามนี้รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนครับ

EIYAIDA Facebook Page

ทางเดินสีแดงที่วัด Bishamondo

ไฮไลท์ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น

ทางเดินที่โรยไปด้วยใบไม้สีแดงเข้ม หาได้จากที่นี่ครับ วัดแห่งเมืองเกียวโต ช่วงที่สีแดงเต็มที่จะประมาณ กลางพฤศจิ ถึง ต้นธันวา ตากล้องทั้งหลายไม่ควรพลาดครับ

ใบไม้แดงพร้อมไฟประดับยามค่ำคืนที่วัด Daigoji

ไฮไลท์ใบไม้เปลี่ยนสีโอซาก้า

ยังไม่พ้นเมืองเกียวโตครับ บอกได้เลยช่วงกลางพฤศจิกา ถึง ต้นธันวา ใครเดินทางมา เกียวโต โอซาก้า ถือว่าเป็นมืออาชีพเรื่องท่องเที่ยวโดยแท้ครับ ไม่ใช่แค่ 2 ที่ๆกล่าวมาแล้ว ยังมีอีกหลายที่ใน นารา โกเบและโอซาก้า ที่จัดว่าตระการตามากมาย

สุดท้ายในช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสีเดียวกันกับโอซาก้าและเกียวโตในเขตโตเกียวเราก็จะขอแนะนำที่นี่เลยครับ ไปแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน

ถนนต้นบ๊วยที่จินกู ไกเอน (The Ginkgo Road of Jingu Gaien)

ใบบ๊วยเปลี่ยนสีที่ Jingu Gaien

ไฮไลท์ใบไม้เปลี่ยนสีญี่ปุ่น ในหน้านี้เป็นอีกฤดูที่น่าเที่ยวที่โตเกียวสุดๆอีกเดือนครับ เพราะนอกจากจินกู ไกเอนแล้วยังมีพระราชวังอิมพีเรียล ริมแม่น้ำสุมิดะ และสวนสาธารณะหลักๆในโตเกียวทั้งหลายอีกหลายที่เลย ไม่ควรพลาดครับ นี่เป็นแค่ส่วนที่เรารวบรวมมาตามประสาคนชอบเที่ยวในเมืองครับและเดินทางไปง่ายๆ ตามอุทยานสวยๆก็เยอะแต่ไม่ขอกล่าวถึงละกันนะครับ

ทัวร์ญี่ปุ่นส่วนตัว